หากจะกล่าวว่า ฟุตบอล เป็นกีฬาสากลของหมู่มวลมนุษยชาติก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลก ฟุตบอลก็ยังคงเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยม ตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน สโมสร ทีมชาติ ไปจนถึงฟุตบอลโลก และนั่นก็ได้กลายแรงบันดาลใจให้กับเด็ก ๆ อีกหลายล้านคน ให้มีความฝันที่จะใช้กีฬาลูกหนัง เป็นอาชีพหาเลี้ยงตัวเอง ดังนั้นในบทความนี้ จะขอนำเสนอประวัติกีฬาฟุตบอล ตั้งแต่ประวัติความเป็นมา, กติกาการเล่น และประโยชน์ดังต่อไปนี้

ประวัติความเป็นมาของกีฬาฟุตบอล

ประวัติกีฬาฟุตบอล ถูกบันทึกไว้หลากหลายแง่มุม จนยากที่จะทราบแน่ชัดว่ามีจุดเริ่มต้นมาจากที่ไหน แต่หากเด่นชัดที่สุดคงไม่พ้นประเทศอังกฤษ ซึ่งมีปรากฏเป็นหลักฐานว่าสโมสรฟุตบอลเชฟฟิลด์ เอฟซี คือสโมสรฟุตบอลแห่งแรกของโลก ซึ่งก่อตั้งในปี 1857 หรือ พ.ศ.2412 โดยสโมสรฟุตบอลในยุคเริ่มแรก จะเป็นพื้นที่สำหรับการออกกำลังกายของชายหนุ่มชนชั้นแรงงาน ด้วยจะแบ่งทีมเล่นกันเอง ก่อนที่ในเวลาต่อมาสมาคมฟุตบอลอังกฤษ จะถือกำเนิดขึ้นในปี 1863 เพื่อเป็นองค์กรดูแลสโมสรฟุตบอล ต่อมาได้เกิดฟุตบอลถ้วยที่เก่าแก่ที่สุดของโลกอย่าง FA Cup ในปี 1871 นั่นทำให้สโมสรฟุตบอลทั่วทั้งเกาะอังกฤษ ต่างส่งทีมเข้าแข่งขันกันอย่างจริงจัง กระทั่งก่อตั้งเป็นฟุตบอลลีกในปี 1888 จนถึงปัจจุบัน

ฟุตบอลอังกฤษ ได้รับความนิยมในหมู่ประชาชนทั่วไป รวมถึงประเทศอื่น ๆ ในยุโรปด้วย นั่นจึงทำให้ในปี 1904 ฟีฟ่า ได้ถูกก่อตั้งขึ้น เพื่อเป็นองค์กรกลาง สำหรับจัดการแข่งขันฟุตบอลในระดับนานาชาติ แต่ฟุตบอลโลกครั้งแรกในปี 1930 ถูกจัดขึ้นที่ทวีปอเมริกาใต้ โดยเป็นการต่อยอดไอเดียจากฟุตบอลโคปาอเมริกา ที่ต้องการให้ทีมชาติจากทั่วทุกมุมโลก มาบรรเลงแข้งกับทีมชาติในทวีปอเมริกาใต้ ทำให้ในช่วงเริ่มแรก ชาติจากยุโรปต้องลงเรือเพื่อไปแข่งขัน รวมถึงมีการเชิญประเทศในเครืออาณานิคมจากทวีปเอเชีย เข้าร่วมการแข่งขัน กระทั่งในเวลาต่อมา ฟุตบอลโลกก็ได้มีระบบแบบสากล ด้วยการจัดขึ้นทุก ๆ 4 ปี และมีระบบการคัดเลือกจากชาติสมาชิกทุกทวีป

สนามฟุตบอล จะมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยเกณฑ์ขั้นต่ำของฟีฟ่าคือ กว้าง 64 เมตร x 100 เมตร และสูงสุด 75 เมตร x 110 เมตร ส่วนพื้นสนามในช่วงยุคหนึ่ง ได้มีความนิยมใช้หญ้าเทียม ก่อนที่จะเสื่อมความนิยมไป เพราะทำให้นักกีฬาบาดเจ็บง่าย และหันกลับมาใช้หญ้าจริงแทน ด้วยการมีระบบดูแลรักษาให้สนามมีความสมบูรณ์ ส่วนที่นั่งของผู้ชม ฟีฟ่าจะเน้นให้เป็นที่นั่งแบบมีเก้าอี้ เพื่อให้สนามมีความจุที่พอดีกับแฟนบอล

เวลาในการแข่งขันจะมีทั้งหมด 90 นาที แบ่งครึ่งละ 45 นาที พัก 15 นาที ถ้าเกมยืดเยื้อจากอาการบาดเจ็บจะมีการทดเวลาบาดเจ็บ และในปัจจุบันได้มีการอัพเดทกติกาคือ เกมหยุดเท่าไร ก็ทดเวลาเท่านั้น ซึ่งได้เริ่มใช้ในฟุตบอลโลก 2022 และลีกชั้นนำของยุโรป เหมือนกีฬาฟุตซอล เพื่อป้องกันนักกีฬาที่ชอบถ่วงเวลา แล้วถ้าเกมยังเสมอกัน ก็จะมีการต่อเวลาออกไปอีกครึ่งละ 15 นาที รวม 30 นาที และถ้าหากยังเสมอกันอีก ก็จะตัดสินเกมด้วยการดวลจุดโทษ

วีดิโอช่วยตัดสิน หรือ VAR ถือเป็นการปฏิวัติครั้งใหญ่ของกีฬาฟุตบอล เพราะมีการนำภาพช้ามาช่วยผู้ตัดสินเป็นครั้งแรกในศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย ซึ่งกติกาการใช้คือ ดูว่าเป็นใบแดงหรือไม่ ดูว่าเป็นจุดโทษหรือไม่ และดูว่าเป็นประตูหรือไม่ ในกรณีที่ห้อง VAR เห็นแย้งกับผู้ตัดสินในสนาม ขณะที่จังหวะล้ำหน้า ฟุตบอลออกจากสนาม และอื่น ๆ จะใช้เทคโนโลยีในการตีเส้นจำลอง และสื่อสารกับผู้ตัดสินผ่านไมโครโฟน 

กติกากีฬาฟุตบอลฉบับย่อ อัพเดตในปี 2024

1. สนามฟุตบอลต้องเป็นสนามหญ้ารูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีเส้นขอบสนามเป็นสีขาวชัดเจน ขนาดขั้นต่ำกว้าง 64 เมตร x 100 เมตร และสูงสุด 75 เมตร x 110 เมตร มีเส้นวงกลมเพื่อแสดงเขตกับใช้ในการเขี่ยลูกเริ่มเกมที่มีขนาดรัศมีประมาณ 3 เมตร
2. ลูกฟุตบอลจะต้องเป็นทรงกลมที่ทำมาจากหนัง หรือวัสดุที่ปลอดภัยเท่านั้น
3. ผู้เล่นตัวจริง และตัวสำรองของทั้งสองทีมจะต้องแบ่งตัวจริงเป็น 11 คน และตัวสำรอง 7 คน พร้อมการสวมเสื้อสีเดียวกันทั้งทีม
4. เสื้อแข่งขันของทั้ง 2 ทีม จะเป็นคนละเฉดสี และผู้รักษาประตูทั้ง 2 ทีม จะต้องสวมเสื้อสีอื่น ให้ต่างจากผู้เล่นทั้ง 2 ทีม
5. ระยะเวลาของการแข่งขันจะมีแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ครึ่งแรก 45 นาที และครึ่งหลัง 45 นาที เวลาพัก 15 นาที
6. ถ้าลูกฟุตบอลโดนเสาประตู, คานของประตู หรือธงที่มุมสนาม แล้วกระเด้งกลับเข้ามาในสนาม สามารถเล่นต่อได้
7. เมื่อลูกฟุตบอลออกนอกเส้นขอบสนาม จะใช้การทุ่มลูกฟุตบอลเหนือศีรษะจากเส้นข้างสนาม ตรงจุดที่ฟุตบอลออกไป
8. การล้ำหน้า จะเกิดขึ้นเมื่อฟุตบอลออกจากเท้าผู้เล่นฝ่ายรุก และฝ่ายรุกที่รอรับฟุตบอล ยืนเหนือผู้เล่นแนวรับคนรองสุดท้าย
9. ลูกจุดโทษ คือ เกิดการทำฟาล์วในกรอบเขตโทษ โดยการยิงจุดโทษในเวลา 90 นาที หากยิงชนเสา ผู้ยิงจะไม่สามารถยิงซ้ำได้ในจังหวะถัดมา แต่หากฟุตบอลสัมผัสกับผู้รักษาประตู ผู้ยิงและผู้เล่นทุกคน สามารถยิงซ้ำได้
10. ลูกตั้งเตะ เกิดจากผู้เล่นทำฟาล์วที่ไม่ใช่ในกรอบเขตโทษ โดยสามารถเริ่มเล่นได้ทันทีเมื่อจับบอลตั้งกับพื้น หรือจะรอสัญญาณจากผู้ตัดสินก็ได้เช่นเดียวกัน
11. เมื่อผู้เล่นฝ่ายรับทำบอลออกเส้นหลัง ผู้เล่นฝ่ายรุกจะต้องนำลูกฟุตบอลไปเริ่มเล่นอีกครั้งที่มุมธง โดยผู้เล่นฝ่ายรับต้องยืนห่าง 10 หลา
12. ผู้รักษาประตู สามารถจับบอลได้ 6 วินาทีเท่านั้น
13. เมื่อผู้เล่นทำผิดกติกา จะมีการคาดโทษครั้งที่ 1 ด้วยใบเหลือง และหากถูกคาดโทษ 2 ครั้ง จะกลายเป็นใบแดง ทำให้ผู้เล่นคนดังกล่าวจะต้องออกจากการแข่งขัน

ประโยชน์ของกีฬาฟุตบอล

1. ทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง
2. รู้จักการเข้าสังคม และทำงานเป็นทีม
3. รู้จักการให้อภัยซึ่งกันและกัน
4. สามารถต่อยอดเป็นอาชีพเลี้ยงดูตนเองได้

บทสรุปของประวัติกีฬาฟุตบอล

ได้ทำให้เห็นถึงการใช้ฟุตบอลเป็นพื้นที่ของการออกกำลังกาย แล้วได้พัฒนามาเป็นการแข่งขัน ซึ่งเวลาที่ผ่านมากว่าร้อยปี ฟุตบอลได้มีวิวัฒนาการที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย เพื่อให้การแข่งขันมีคุณภาพที่ดี แต่สิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงไปได้ คือศรัทธาและความหลงไหลของแฟนบอล ที่ยังคงส่งผ่านรุ่นต่อรุ่นแบบไม่รู้จบ

sportyrelax เว็บไซต์รวมกีฬา ข่าวสารสาระเกี่ยวกับ กีฬารอบโลก

KINGNBA อัพเดทข่าวสารวงการกีฬาบาสเกตบอล ผลบาส ผลบาสทั่วโลก