กว่าจะมาเป็น กีฬาโบว์ลิ่ง จากเกมทอยพิณ 3,000 ปี สู่กีฬายุคใหม่ในปัจจุบัน

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าถ้าได้ย้อนอดีต ศึกษา ประวัติกีฬาโบว์ลิ่ง แทบไม่น่าเชื่อว่า กีฬาโบว์ลิ่ง นั้น ได้รับการบันทึกว่ามีการเล่นกันมาอย่างยาวนานกว่า 3,000 ปีแล้ว โดยฮาณาจักรโบราณที่ได้เล่นกีฬาชนิดนี้ก่อนใครเพื่อน คืออาณาจักรอียิปต์โบราณ ซึ่งรูปแบบการเล่น มีรูปแบบคล้ายคลึงกัน ด้วยการโยนลูกหิน หรือก้อนดินเผาทรงกลม เพื่อทำการล้มพิณไม้แกะสลัก ซึ่งในยุคแรกนั้นจะมีพิณไม้เพียงแค่ 1-2 อันเท่านั้น

จวบจนในศตวรรษที่ 16 นักศาสนา นาม มาร์ติน ลูเธอร์ ได้คิด กีฬาโบว์ลิ่ง+กติกา ในระดับมาตรฐาน โดยในขณะ เรียกกีฬาชนิดนี้ว่า เคเกล ซึ่งมีรูปแบบการเล่น ที่ไม่แตกต่างจากการเล่นโบลลิ่งในแบบอียิปต์โบราณ ที่มีการโยนลูกบอลที่ทำจากไม้หรือหิน เพื่อล้มพิณที่ทำมาเป็นลักษณะคล้ายขวดให้ล้มลง แต่ในช่วงแรก มีพิณให้เล่นเพียงแค่ 1-2 พิณ เท่านั้น

เรียนรู้ กฎ กติการ การเล่น และการแข่งขัน กีฬาโบว์ลิ่ง ในปัจจุบัน

เมื่อ กีฬาโบว์ลิ่ง ได้รับความนิยมมากขึ้น ไม่เว้นแม้กระทั่งในประเทศไทย ที่มี สมาคมกีฬาโบว์ลิ่งแห่งประเทศไทย คอยควบคุมและกำกับดูแล รูปแบบการแข่งขันกีฬาโบว์ลิ่ง รวมไปถึงการคัดสรรนักกีฬาโบว์ลิ่ง ที่อยู่ในสังกัดของ สมาคมกีฬาโบว์ลิ่งแห่ง ประเทศไทย บ ล ท ทำการแข่งขันในเกมอย่างเป็นทางการ รวมไปถึงการแข่งขันในกีฬาโอลิมปิค ที่ในบางปี ได้มีการบรรจุกีฬาโบว์ลิ่ง ให้เป็นหนึ่งในเกมการแข่งขันที่มีการชิงรางวัลเหรียญทอง ชื่อของ ญาณพล คือ หนึ่งในกีฬาโบว์ลิ่งชั้นนำของประเทศไทย ที่สร้างชื่อเสียงอย่างมากมาย ในฐานะ นักกีฬาโบว์ลิ่งชั้นแนวหน้าของเมืองไทย

สำหรับการนับคะแนน กีฬาโบว์ลิ่ง ถ้าสามารถทอยลูกโบว์ลิ่ง ชนพิณล้มทั้งหมด จำนวน 10 พิณ จะเรียกว่า สไตร์ค ถ้าทำติดต่อกันได้ จะได้คะแนนพิเศษเพิ่มเติมไปด้วย ดังนั้น โบว์ลิ่ง คือ กีฬาแห่งสมาธิ จะต้องวางแผนการเล่น พร้อมทั้งมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง ในการถือลูกโบว์ลิ่งที่มีน้ำหนักถถึง 12 ปอนด์ หรือประมาณ 3 กิโลกรัมกว่า ๆ เรียกได้ว่า กติการไม่ซับซ้อน แต่ก็ต้องอาศัยความนิ่งในการเล่น เพื่อล้มพิรลง พร้อมทั้งคะแนนพิเศษ เพื่อการเป็นแชมป์ในรายการแข่งขันนั้น ๆ