ประวัติของกีฬากระโดดไกล เพิ่มทักษะและความแกร่งให้ร่างกายได้เยี่ยม !

ประวัติของกีฬากระโดดไกล เพิ่มทักษะและความแกร่งให้ร่างกายได้เยี่ยม !

 

กระโดดไกลเป็นหนึ่งในกีฬาที่ถูกบรรจุลงสู่การแข่งขันโอลิมปิก แต่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มกรีฑาประเภทลาน โดยจะมีทั้งการ วิ่งกระโดดสูง, การทุ่มน้ำหนัก, การขว้างจักร, การพุ่งแหลน และการวิ่งกระโดดไกล ที่ต้องใช้ทักษะความชำนาญพิเศษส่วนตัวเท่านั้น พร้อมความคล่องแคล่วและความแข็งแกร่งของร่างกาย รวมไปถึงความคิดที่รวดเร็ว ต้องรู้จักการวิ่งในจังหวะที่ถูกต้อง เพื่อบังคับให้ร่างกายสามารถกระโดดออกไปได้ไกลมากที่สุด ดังนั้นจึงถือว่าเป็นหนึ่งในกีฬาที่ต้องได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี

 

กระโดดไกล

 

ประวัติความเป็นมาของกีฬากระโดดไกล

ประวัติกระโดดไกลเริ่มต้นมาจากการถูกบันทึกให้เป็นหนึ่งในกีฬา ที่ได้เปิดการแข่งขันมาตั้งแต่ช่วงสมัยโอลิมปิกโบราณและในยุคสมัยใหม่ก็ยังคงมีการแข่งขันประเภทนี้อยู่ ซึ่งหัวใจหลักของการแข่งกระโดดไกล คือ ความเร็ว, ความแข็งแกร่ง และการพาตัวเองกระโดดไปสู่เป้าหมายให้ไกลมากที่สุด โดยจะมีเส้นตั้งต้นที่เป็นเส้นกำหนด เมื่อกระโดดออกไปแล้วจะวัดจากจุดที่ลงจุดแรก ส่วนใหญ่จะใช้เป็นส้นเท้าลง จากนั้นจะมีการวัดว่าใครที่ไปได้ไกลกว่า สำหรับการแข่งขันช่วงแรกเริ่มในปี ค.ศ.1896 จะมีแต่เฉพาะการแข่งกระโดดไกลของผู้ชายเท่านั้น ส่วนการแข่งขันของผู้หญิงมาเริ่มต้นในช่วงปี ค.ศ.1948 ส่วนจุดเริ่มต้นจริงของกีฬากระโดดไกลมีตั้งแต่เมื่อ 1 ปีที่แล้ว จึงถือว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มกีฬาที่มีความเก่าแก่ที่สุดในโลกและรวมอยู่ในกลุ่มของกรีฑาที่มีรูปแบบแตกต่างออกไป

จุดเริ่มต้นของกีฬากระโดดไกลมาจากการสู้รบ เพราะท่าของการกระโดดในระยะทั้งใกล้และไกลเป็นการฝึกอบรมของทหารในยุคโบราณ เพื่อการเอาตัวรอดในสนามรบ แต่เมื่อสงครามสงบลงจึงถูกสร้างให้เป็นการแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกรุ่นโบราณ ดังนั้น เมื่อนักรบไม่ได้ออกไปสู้เหมือนในอดีตจึงกลายมาเป็นนักกีฬา กระโดดไกล ที่สามารถนำทักษะพิเศษส่วนตัวมาคว้ารางวัลไปครอง การฝึกฝนของเหล่านักรบในช่วงแรกที่ต้องกระโดดไกล คือ การกระโดดข้ามทั้งลำธารและคูน้ำ เมื่อฝึกบ่อยครั้งจึงทำให้ร่างกายเกิดความแข็งแกร่งและมีทักษะที่ดีเยี่ยม ส่วนการกำหนดน้ำหนักของการลงพื้นในแต่ละครั้งจะอยู่ที่ 1-4.5 กิโลกรัมเท่านั้น และในการแข่งกระโดดไกลแต่ละครั้งจะต้องสามารถผลักให้ตัวเองไปสู่เป้าหมายได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด พร้อมการลงพื้นได้โดยไม่ลงไปนั่งหรือล้มแต่อย่างใด การฝึกฝนจึงใช้ทรายปูพื้นเป็นหลัก เพราะพื้นทรายจะนุ่ม รองรับเท้าได้ดี ไม่ก่อให้เกิดอันตรายมากจนเกินไป

และสำหรับช่วงแรกของการแข่งขันกีฬากระโดดไกลในโอลิมปิกปี ค.ศ.1896 ผู้ที่สร้างประวัติศาสตร์แห่งการกระโดดไกลและคว้ารางวัลเหรียญทองได้สำเร็จ คือ นักกีฬา กระโดดไกลอย่าง Ellery ที่สามารถทำระยะทางในการกระโดดได้สูงถึง 6.35 เมตร จึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของการแข่งกระโดดไกลที่ถูกบันทึกไว้เป็นสถิติโลก แต่หลังจากนั้นได้ 25 ปี Jesse Owen สามารถที่จะกระโดดได้ไกลถึง 8.13 เมตร และถูกทำลายสถิติอีกครั้งที่ระยะ 8.95 เมตร ซึ่งผู้ที่ทำลายสถิติได้นั้นเป็นนักกีฬา กระโดดไกลผู้หญิง จึงทำให้กีฬาประเภทนี้ไม่แบ่งแยกชาย-หญิงและได้การยอมรับมายาวนาน จนกระทั่งกลายเป็นกีฬาสำคัญในการแข่งขันทั้งระดับประเทศและระดับโลกจนถึงปัจจุบัน

 

กระโดดไกล1

 

กติกาของกีฬากระโดดไกล

กติกากระโดดไกล คือ การที่นักกีฬาแต่ละคนจะต้องเข้าแข่งขันแล้วทำสถิติให้ดีที่สุด จากนั้นจะมีการรวมคะแนนจากสถิติที่ทำไว้มาตัดสิน ใครที่ทำคะแนนกระโดดไกลได้ดีที่สุดคนนั้นจะถือว่าเป็นอันดับที่ 1 สำหรับการกระโดดจะมีเส้นที่นักกีฬาจะต้องใช้ปลายเท้าเสมอกับเส้น จากนั้นให้ย่อตัวลงแล้วกระโดดลงไปในบ่อทราย หรือจะวิ่งมาก่อนแล้วกระโดดตรงเส้นที่ถูกกำหนดไว้ก็ได้เช่นกัน สามารถใช้ท่ากระโดดไปทางด้านหน้าหรือใช้ท่าด้านข้างได้ทั้งหมด ส่วนการเขย่งก้าวกระโดดจะใช้การก้าวขาออกไปก่อนแล้วกระโดด พร้อมการเขย่งที่จะใช้เท้าเดียวและเมื่อลงสู่พื้นจะใช้เท้าเดียวกันกับที่เขย่งเหยียบลงบนกระดาน จากนั้นจะมีการวัดระยะทางและรวมสถิติเพื่อตัดสินผลเช่นเดียวกับการแข่งกระโดดไกลตามปกติ

 

กระโดดไกล2

 

เทคนิคการกระโดดไกล

สำหรับเทคนิคของการกระโดดไกล จะต้องทำให้ร่างกายเกิดความสมดุลกันตั้งแต่ช่วงวิ่ง โดยจะมีระยะของการวิ่งที่แล้วแต่คนจะถนัด สำหรับการฝึกฝนช่วงแรกจะใช้เป็นบอร์ดเพื่อสปริงตัว การวิ่งตั้งแต่เริ่มต้นจะต้องเร่งความเร็วให้ได้มากที่สุด จากนั้นเมื่อถึงแผ่นบอร์ดให้กระโดดด้วยการเอนตัวไปด้านหน้าแล้วพุ่งออกไปให้เร็วที่สุด ในขณะที่กระโดดให้เปลี่ยนท่าสู่การใช้เท้าลงพื้น ช่วงขณะที่กำลังกระโดดให้ย่อสะโพกลงและพยายามให้ขาทั้งสองข้างสมดุลกันมากที่สุด ส่วนช่วงที่ลอยตัวอยู่บนอากาศควรกางแขนออก ให้ลักษณะคล้ายกับโดนแขวนกลางอากาศแล้วให้แกว่งขาเหมือนกำลังวิ่งอยู่กลางอากาศ ส่วนในขณะที่ลงพื้นให้รวบขาทั้งสองข้างแล้วเหยียดขาออกไป เพื่อทำให้ได้จุดของการลงที่ไกลมากที่สุด

กีฬากระโดดไกลถือว่าเป็นการใช้ทักษะพิเศษสำหรับการแข่งขัน ดังนั้นผู้ที่เป็นนักกีฬาจึงต้องมีความแข็งแรงพอสมควร จะต้องมีการฝึกฝนอย่างหนักและทำท่าอย่างถูกต้อง เพื่อไม่ก่อให้เกิดอันตราย เนื่องมาจากท่าของการกระโดดมีความพิเศษ ถ้าไม่ได้รับการฝึกฝนที่ดีอาจทำให้ช่วงล่างหรือช่วงสะโพกบาดเจ็บหนักและอาจก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บเรื้อรังในอนาคตอีกด้วย