ประวัติของกีฬายูโด ศิลปะแห่งการต่อสู้ที่องอาจ ฉลาด ว่องไว
ยูโดเป็นศิลปะการต่อสู้ที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี แต่จะเน้นในเรื่องของการป้องกันตัวเป็นหลัก ใช้วิธีการต่อสู้แบบดั้งเดิมของประเทศญี่ปุ่น โดยจะมีหัวใจหลัก คือ การจับและการทุ่ม จึงถูกยกย่องให้เป็นกีฬาที่สร้างทั้งความแข็งแรงและความชาญฉลาดในการสยบคู่ต่อสู้ด้วยมือเปล่า พร้อมการขึ้นเป็นกีฬาทั้งในระดับประเทศและระดับโลก มีการแข่งขันอย่างเป็นทางการในหลายประเทศ พร้อมสร้างประโยชน์ในด้านการป้องกันตัวและความแข็งแรงให้กับคนในยุคนี้ได้อย่างสูงสุด
Jigoro Kano
ประวัติความเป็นมาของยูโด
ประวัติยูโดหรือ Judo ถือกำเนิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น ช่วงปี ค.ศ. 1882 จากครูพลศึกษาที่เก่งในด้านศิลปะการต่อสู้อย่าง Jigoro Kano แต่ถ้าพูดถึงพื้นฐานของกีฬาประเภทนี้จริง ๆ อาจจะต้องย้อนกลับสู่สมัยสงครามญี่ปุ่นที่ทหารทุกคนต้องฝึกยิวยิตสู การพัฒนาหลักสูตรของยิวยิตสูการเป็นยูโดถูกรวบรวมให้เป็นแบบแผนมาตั้งแต่ช่วงยุคเซ็งโงะกุ ซึ่งตระกูลโทคุงาวะได้ทำสงครามเพื่อปราบแคว้นต่าง ๆ ภายในญี่ปุ่นให้สงบและอยู่ภายใต้อำนาจของตน พร้อมการปกครองด้วยการใช้ชนชั้นโชกุนมาเป็นผู้ดูแลประเทศ จึงได้มีการปรับวิชาดาบหรือวิชารบของเหล่าซามูไรให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น พร้อมการให้ซามูไรได้เรียนรู้ถึงหลักการปกครองและการอบรมจิตใจ เพื่อให้มีความเป็นผู้มีศีลธรรมมากขึ้น
ซึ่งยุคนั้นยิวยิตสูถูกใส่เข้ามาเป็นวิชาป้องกันตัวและเป็นการต่อสู้ ที่ไม่ใช้อาวุธแต่อย่างใด ใช้เพียงแค่กำลังกายกับกำลังใจที่จะทำให้การต่อสู้นั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความมีคุณธรรม เน้นความมีมารยาทและจรรยาบรรณที่ดี วิชานี้จึงจะให้เกียรติซึ่งกันและกัน ดังนั้นคำว่ายิวยิตสูจึงหมายถึงศิลปะการสู้ที่มีความสุภาพอ่อนโยน แต่สามารถสยบคู่ต่อสู้ให้อยู่หมัดได้ แต่หลังจากการปฏิวัติประเทศเข้าสู่วัฒนธรรมแห่งเมจิ การต่อสู้แบบยิวยิตสูจึงได้เสื่อมความนิยมลง จนกระทั่งปรมาจารย์ คะโน จิโงะโร ได้พาครอบครัวเข้ามาอาศัยอยู่ในกรุงโตเกียวช่วงอายุ 18 ปี และได้เข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยของกรุงโตเกียวในขณะปรัชญาศาสตร์และประสบความสำเร็จด้านการศึกษาเมื่ออายุ 23 ปี จึงได้นำวิชายิวยิตสูกลับมาฝึกฝนร่างกายของตนเอง พร้อมการผสมผสานหลักปรัชญาแห่งความเป็นจริงเข้าไปด้วย
ถือกำเนิดมาเป็นวิชาใหม่และตั้งชื่อสถาบันของตัวเองว่าโคโดกัง ยูโด ซึ่งหมายถึงศิลปะการต่อสู้ด้วยการทุ่ม จึงเกิดเป็นท่าประจำอย่างท่าทุ่มยูโด ซึ่งวิชายูโดนั้นสามารถที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้ในการแข่งขันของกรมตำรวจญี่ปุ่นที่เป็นการปะทะกันระหว่างกีฬายูโดกับยิวยิตสู ผลออกมาว่าวิชายูโดนั้นสามารถเอาชนะผู้ที่เป็นนักกีฬายิวยิตสูได้ถึง 13 คน และเสมอเพียง 2 คน จากการแข่งขันทั้งหมดที่ฝ่ายละ 15 คน จึงทำให้มีผู้คนสนใจเรียนยูโดกันเป็นจำนวนมาก วิชายูโดจึงได้สืบทอดมาตั้งแต่ปี 2476 และกลายมาเป็นที่รู้จักของนักกีฬาทั่วโลกในปัจจุบัน
<
กติกาของการแข่งขันยูโด
ยูโด กติกาจะมีตั้งแต่เรื่องของสนาม, อุปกรณ์ในการแข่งขัน, ชุดยูโด และหลากหลายส่วนที่ถูกทำออกมาเพื่อให้การแข่งขันได้มาตรฐานและเป็นสากลมากที่สุด แต่จะขอนำยูโด กติกาเฉพาะในส่วนของการแข่งขันที่ถือว่าเป็นส่วนสำคัญมากที่สุดมาให้ได้ศึกษา ดังต่อไปนี้
- การแข่งขันกีฬายูโด จะเริ่มขึ้นเมื่อมีการตรวจสอบผู้ที่เป็นนักกีฬามาแล้วเรียบร้อย จะเน้นเรื่องของความอนามัยที่นักกีฬาทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องสะอาด ยูโดกีจะต้องแห้งและห้ามมีกลิ่นใด ๆ เด็ดขาด
- ห้ามไว้เล็บมือและเล็บเท้าเด็ดขาด
- อนามัยส่วนตัวของนักกีฬาทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเท่านั้น
- นักกีฬาไว้ผมยาวได้ แต่จะต้องมีการมัดให้เรียบร้อย
- ถ้าผิดจากข้อใดข้อหนึ่งที่กล่าวมาทั้งหมด จะถูกตัดสิทธิ์การแข่งขันทันที
- การแข่งขันต้องตรวจสอบให้ดีว่าภายในสนามจะต้องไม่มีผู้ใด ที่จะก่อกวนนักกีฬาจนอาจเกิดอาการบาดเจ็บได้ ซึ่งการก่อกวนนี้จะหมายถึงการถ่ายภาพ, การส่งเสียงดัง หรือการทำกิริยาต่าง ๆ ที่อาจทำให้นักกีฬาตกใจและได้รับอาการบาดเจ็บหนักได้
- ผู้ตัดสินจะอยู่ข้างเวทีและจะมีผู้ชี้ขาดบนเวทีที่จะนั่งตรงข้ามซึ่งกันและกัน เพื่อที่จะสามารถดูนักกีฬาได้จากรอบด้าน
- การแข่งขันยูโดจะมีการแบ่งประเภทและรุ่นไว้อย่างชัดเจน โดยนักกีฬาที่ลงแข่งขันในแต่ละรุ่นจะต้องมีน้ำหนักตามที่ถูกกำหนดไว้เท่านั้น เช่น ถ้าเป็นรุ่น Extra Light weight น้ำหนักจะต้องไม่เกิน 55 กิโลกรัม, รุ่น Half Light weight น้ำหนักจะต้องไม่เกิน 60 กิโลกรัม, รุ่นไลท์เวทน้ำหนักจะต้องไม่เกิน 66 กิโลกรัม, รุ่นมิดเดิลเวทน้ำหนักจะต้องไม่เกิน 81 กิโลกรัม และถ้าเป็นรุ่น Open Weight จะไม่จำกัดน้ำหนัก ดังนั้นเมื่อจะลงแข่งขันต้องมีการวัดน้ำหนักให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งถ้ามีการเปลี่ยนตัวกะทันหันและน้ำหนักไม่ตรงตามกับที่ยื่นเอกสารไว้อาจจะถูกปรับแพ้ทั้งทีม
ยูโดถูกจัดอันดับให้เป็นกีฬาแห่งศิลปะป้องกันตัวที่มีคนนิยมเล่นกันเป็นจำนวนมาก ทั้งยังมีนักกีฬาที่มุ่งสู่เส้นทางของการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย สำหรับในประเทศไทยนั้นกีฬายูโดได้รับความนิยมสูงจากทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่ต้องการมีศิลปะป้องกันตัวไว้ใช้ในชีวิตประจำวันและการเป็นนักกีฬามืออาชีพที่สามารถไปชิงแชมป์ พร้อมสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยหลายคนเลยทีเดียว