สตีฟ บรูซ ปราการหลังตำนานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สู่กุนซือจอมพเนจรแห่งวงการฟุตบอลอังกฤษ

สตีฟ บรูซ ปราการหลังระดับตำนานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สู่กุนซือจอมพเนจรแห่งวงการฟุตบอลอังกฤษ

ถ้าหากพูดถึงชื่อของ สตีฟ บรูซ เชื่อว่าแฟนบอลหลายคนน่าจะนึกถึงกุนซือจอมพเนจร ที่มีโอกาสแวะเวียนไปคุมทัพให้กับหลากหลายสโมสร แต่จะมีสักกี่คนรู้ว่าสมัยเป็นนักฟุตบอล เขาคือปราการหลังระดับตำนานของทัพปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เลยทีเดียว และวันนี้เราจะพาแฟนบอลทุกท่านไปทำความรู้จักกับ สตีฟ บรูซ กุนซือจอมพเนจรแห่งวงการฟุตบอลอังกฤษ กันให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม 

 

steve-bruce

สตีฟ บรูซ (Steve Bruce) อดีตปราการหลังระดับตำนานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

 

จากปราการหลังระดับตำนาน สู่เส้นทางการเป็นกุนซือของ สตีฟ บรูซ 

สตีฟ บรูซ มีชื่อเต็มว่า สตีฟ โรเจอร์ บรูซ เกิดเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ปีคริสตศักราช 1960 ที่เมืองคอร์บริดจ์ ประเทศอังกฤษ เขาเป็นที่รู้จักในฐานะปราการหลังระดับตำนานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังค้าแข้งให้กับทีมช่วงฤดูกาล 1987-1996 ก่อนจะประกาศแขวนสตั๊ดกับเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ในปีคริสตศักราช 1999 ด้วยวัย 39 กระรัต พร้อมเริ่มต้นเส้นทางการเป็น ผู้จัดการทีม ให้กับเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด แบบเต็มตัว ซึ่งผลงานการคุมทัพของ สตีฟ บรูซ ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนัก แต่สุดท้ายเขาตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง หลังคุมทัพได้เพียงแค่ปีเดียว เพราะต้องการมองหาความท้าทายใหม่ ซึ่งหลังจากว่างงานไม่นาน สตีฟ บรูซ ก็ได้ย้ายไปคุมฮัดเดอร์ฟิลด์ ทาวน์ แต่เขากลับทำผลงานได้น่าผิดหวัง สวนทางกับงบประมาณที่ลงทุน ทำถูกปลดออกจากตำแหน่งอย่างรวดเร็ว ในปีคริสตศักราช 2000 และเพียงแค่ไม่ถึงปี สตีฟ บรูซ ก็ได้รับการทาบทามให้ไปทำหน้าที่ ผู้จัดการทีม วีแกน แอธเลติก ในลีก วัน แต่คุมทีมได้ไม่นาน ก็โยกไปคุมคริสตัล พาเลซ ในปีเดียวกัน ด้วยสัญญาระยะสั้น เป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งผลงานของ Steve Bruce ถือว่ายอดเยี่ยมทีเดียว จนไปเข้าตาของบอร์ดบริหารของเบอร์มิงแฮม ซิตี้ เข้าอย่างจัง ก่อนจะถูกแต่งตั้งให้เป็น ผู้จัดการทีม ในปีคริสตศักราช 2001 ซึ่งที่นี่ถือเป็นเวทีแจ้งเกิดของเขาเลยก็ว่าได้ เพราะเขาสามารถพาทีมจบฤดูกาล 2006-2007 ด้วยอันดับ 2 ของตารางคะแนนเดอะ แชมป์เปี้ยนชิพ คว้าสิทธิ์เลื่อนชั้นขึ้นสู่พรีเมียร์ลีก แบบอัตโนมัติ และถึงแม้ว่า สตีฟ บรูซ จะได้รับการต่อสัญญาฉบับใหม่ แต่เขากลับปฏิเสธ ถือเป็นการปิดฉาก 6 ปี กับทัพตราลูกโลก ได้อย่างสวยงาม

 

steve-bruce-shef-U

สตีฟ บรูซ (Steve Bruce) กับงานแรกในฐานะผู้จัดการทีมของเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ในวัย 39 ปี

 

สตีฟ บรูซ กุนซือเจ้าของฉายาจอมพเนจรแห่งวงการฟุตบอลอังกฤษ 

หลังจากอำลาทัพตราลูกโลก ในปีคริสตศักราช 2007 Steve Bruce ตัดสินใจย้ายไปคุมวีแกน แอธเลติก เป็นคำรบที่ 2 ซึ่งก็ไม่ได้มีผลงานอะไรที่น่าสนใจมากนัก ก่อนจะแยกทางกันไปในปีคริสตศักราช 2009 ซึ่งสิ่งที่น่าใจได้เกิดขึ้นหลังจากนั้น เขาตัดสินใจย้ายไปคุมทีมซันเดอร์แลนด์ ซึ่งนั่นทำให้แฟนบอลของทีมไม่พอใจเป็นอย่างมาก เนื่องจาก สตีฟ บรูซ เป็นแฟนบอลของนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด คู่แค้นตลอดกาลอย่างเต็มตัว เมื่อแฟนบอลของทีมไม่สนับสนุน บวกกับผลงานที่ย่ำแย่อย่างต่อเนื่อง สตีฟ บรูซ กับซันเดอร์แลนด์ ก็ต้องแยกทางกันในปีคริสตศักราช 2011 ก่อนที่ในปีถัดมา เขาจะสามารถกู้ชื่อกลับมาได้อีกครั้ง หลังพาฮัลล์ ซิตี้ เลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกสูงสุด ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่เข้าคุมทีม ในฤดูกาลต่อมา สตีฟ บรูซ รอดพ้นจากการตกชั้นได้อย่างหวุดหวิด แถมยังพาทีมทะลุเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศ ของศึกฟุตบอลถ้วยเอฟ เอ คัพ คว้าตั๋วลุยศึกยูโรป้า ลีก เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร ก่อนจะตัดสินใจลาออกตำแหน่ง ในปีคริสตศักราช 2016 หลังไม่พอใจที่บอร์ดบริหารไม่มีงบประมาณให้เขาเสริมทัพ หลังว่างงานได้ 3 เดือน สตีฟ บรูซ ได้เข้ารับตำแหน่ง ผู้จัดการทีม แอสตัน วิลลา พร้อมภารกิจกลับสู่ลีกสูงสุดให้ได้ แม้ว่าผลงานจะยอดเยี่ยม แต่เมื่อไม่สามารถพาทีม เลื่อนชั้นได้สำเร็จ เขาก็ถูกปลดออกจาตำแหน่งไปตามระเบียบ จนกระทั่งต้นปีคริสตศักราช 2019 สตีฟ บรูซ ได้ย้ายไปคุมนกเค้าแมว เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ แต่คุมทัพได้เพียงแค่ 5 เดือน เขาก็ตัดสินใจลาออกทันที หลังได้รับข้อเสนอจากนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด สโมสรที่ตัวเขาติดตามเชียร์ตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก ซึ่ง สตีฟ บรูซ ก็ได้นั่งแท่น ผู้จัดการทีม ให้กับทัพสาลิกาดง ตั้งแต่ช่วงเดือนเดือนกรกฏาคม ในปีคริสตศักราช 2019 มาจนถึงปัจจุบัน 

 

steve-bruce-newcastle

สตีฟ บรูซ (Steve Bruce) กับงานปัจจุบันในฐานะนายใหญ่ของทัพสาลิกาดง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด

 

จะว่าไปแล้ว สตีฟ บรูซ ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในบุคคลที่อาภัพวาสนาเป็นอย่างมาก เพราะตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมา เขามักจะถูกมองข้ามมาเสมอ สมัยยังเป็นนักเตะ ก็ไม่เคยถูกเรียกตัวติดชาติอังกฤษ เลยแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ส่วนการเป็น ผู้จัดการทีม ก็มักจะถูกเหล่าแฟนบอลรุมยี๊เสมอ ทั้งที่ผลงานก็ไม่ได้ย่ำแย่เท่าไรนัก ซึ่งนั่นทำให้ สตีฟ บรูซ ต้องพยายามมุ่งมั่นในการพิสูจน์ตัวเองต่อไป 

 

 

สนับสนุนโดย sa-game.bet / pgcandy.com