โชเซ มูรินโญ สุดยอดกุนซือระดับโลก ที่เริ่มต้นจากการเป็นล่ามแปลภาษา 

โชเซ มูรินโญ สุดยอดกุนซือระดับโลก ที่เริ่มต้นจากการเป็นล่ามแปลภาษา 

ถ้าหากถามถึงรายชื่อของกุนซือที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดในยุคปัจจุบัน เชื่อว่าชื่อของ โชเซ มูรินโญ น่าจะต้องเป็นหนึ่งในรายชื่อที่แฟนบอลหลายท่านนึกถึงอย่างแน่นอน เพราะถึงแม้ว่าผลงานในการคุมทีมของเขาจะไม่ได้ร้อนแรงเหมือนอย่างในอดีต แต่ฝีมือของเขาก็ไม่ได้เป็นสองรองใครอย่างแน่นอน และวันนี้เราขอพาแฟนบอลทุกท่านไปทำความรู้จักกับ โชเซ มูรินโญ สุดยอดกุนซือระดับโลก ที่เริ่มต้นจากการเป็นล่ามแปลภาษา 

 

Jose-Mourinho-FC-Porto

โชเซ มูรินโญ่ (๋José Mourinho) เริ่มสร้างชื่อเสียงในฐานะผู้จัดการทีมด้วยการพาเอฟซี ปอร์โต้ คว้าแชมป์ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก

 

จุดเริ่มต้นของ โชเซ มูรินโญ กับการเป็นล่ามแปลภาษา

โชเซ มูรินโญ มีชื่อเต็มว่า โชเซ มาริโอ ดอส ซานโตส มูรินโญ เฟลิกซ์ เกิดเมื่อวันที่ 26 มกราคม ปีคริสตศักราช 1963 เกิดที่เมืองซึตูบัล ประเทศโปรตุเกส ในสมัยเป็นนักฟุตบอลเขาไม่ประสบความสำเร็จนัก ก่อนจะแขวนสตั๊ดในปีคริสตศักราช 1987 พร้อมกับเริ่มทำงานเป็นครูพลศึกษา ควบคู่ไปกับการทำงานเป็นโค้ชระดับเยาวชน แมวมอง รวมถึงผู้ช่วย ผู้จัดการทีม ให้กับสโมสรระดับท้องถิ่น ก่อนที่ในปีคริสตศักราช 1990 เขาจะได้รับมอบหมายที่ทำให้เป็นล่ามแปลภาษา ให้กับ เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน สมัยคุมทัพสปอร์ตติง ลิสบอน , ปอร์โต และ บาร์เซโลน่า รวมถึงทำหน้าที่ดังกล่าวให้กับ หลุยส์ ฟาน กัล สมัยคุมบาร์เซโลน่า ด้วย และแล้วโอกาสของ โชเซ มูรินโญ ก็มาถึงในปีคริสตศักราช 2002 หลังได้รับโอกาสคุมทัพเบนฟิก้า เป็นระยะเวลาสั้นๆ ก่อนจะย้ายไปคุมทัพยูดี ไลรีอา ซึ่งเขาสามารถเข็นยูดี ไลรีอา ไปจบอันดับ 5 ของตารางคะแนนได้สำเร็จ ก่อนจะได้ก้าวไปคุมทัพปอร์โต สโมสรยักษ์ใหญ่ของประเทศ ในปีคริสตศักราช 2002 ที่นี่ โชเซ มูรินโญ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก หลังพาทีมคว้าแชมป์คว้าแชมป์ลีก 2 สมัย , ยูโรป้า ลีก 1 สมัย และ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก 1 สมัย ซึ่งผลงานระดับพระกาฬดังกล่าว ทำให้เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ผู้จัดการทีม เชลซี ในเวลาต่อมา

 

Jose-Mourinho-Chelsea

โชเซ มูรินโญ่ (josé mourinho) เข้ามาคุมทีมเชลซีในฤดูกาล 2004/2005 และก็พาทีมคว้าแชมป์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี

 

โจเซ มูรินโญ กับการเป็นสุดยอดกุนซือระดับโลก ที่มีทั้งคนรักและคนเกลียด

โชเซ มูรินโญ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ผู้จัดการทีม ของทัพสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ปีคริสตศักราช 2004 ซึ่งเขาได้ให้สัมภาษณ์ในงานแถลงข่าวเปิดตัวว่า ตัวเขาเป็นบุคคลพิเศษ จนกลายที่มาของฉายา เดอะ สเปเชียล วัน และเขาก็ประสบความสำเร็จอย่างมากในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ หลังพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย , เอฟเอ คัพ 1 สมัย , ลีก คัพ 2 สมัย , คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 1 สมัย ก่อนจะอำลาทีมในปีคริสตศักราช 2007 หลังมีปัญหากับบอร์ดบริหาร และเลือกย้ายไปคุมทัพงูใหญ่ อินเตอร์ มิลาน ในปีคริสตศักราช 2008 ซึ่ง โชเซ มูรินโญ ก็ยังคงประสบความสำเร็จเช่นเคย หลังพาทีมคว้าแชมป์ซูเปอร์ โคปา อิตาเลียนา ในฤดูกาลแรก ก่อนที่ในฤดูกาลถัดมา จะพาทีมคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา , โคปา อิตาเลีย , ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ และตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งทันที เพื่อย้ายไปหาความท้าทายใหม่กับเรอัล มาดริด ในปีคริสตศักราช 2010 ตลอดระยะเวลา 3 ฤดูกาล โชเซ มูรินโญ พาทีมคว้าแชมป์ทุกรายการภายในประเทศ ก่อนจะอำลาทีมไปอยู่กับอดีตต้นสังกัดอย่าง เชลซี เป็นคำรบที่สอง ในปีคริสตศักราช 2013 และการกลับมาครั้งนี้ เขาก็สามารถพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และแชมป์ลีก คัพ มาครองได้อย่างละ 1 สมัย แต่ด้วยผลงานย่ำแย่ทำให้ โชเซ มูรินโญ ถูกปลดออกจากตำแหน่งในคริสตศักราช 2016 และเป็นทัพปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่แต่งตั้งเขาเป็น ผู้จัดการทีม ต่อจาก หลุยส์ ฟาน กัล ซึ่ง โชเซ มูรินโญ ก็สามารถพาทีมคว้าแชมป์ยูโรป้า ลีก และแชมป์ลีก คัพ มาครองได้อย่างละ 1 สมัย ก่อนจะถูกปลดออกจากตำแหน่งในปีคริสตศักราช 2018 และได้เข้ารับตำแหน่ง ผู้จัดการทีม ท็อตเทนแน่ม ฮอตสเปอร์ ในปีคริสตศักราช 2019 มาจนถึงปัจจุบัน

 

Jose-Mourinho

โชเซ มูรินโญ่ (josé mourinho) ในฐานะผู้จัดการทีมของท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในปัจจุบัน

 

ต้องบอกเลยว่า โชเซ มูรินโญ ถือเป็นหนึ่งในกุนซือระดับโลก ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอันโดดเด่นเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสไตล์ทำทีม หรือสไตล์การตอบคำถามสื่อที่ยียวน และด้วยความพิเศษดังกล่าว บวกกับฝีไม้ลายมือในทีมคุมทัพที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้ใคร ทำให้เหมาะสมกับฉายา เดอะ สเปเชียล วัน และไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ชื่อของเขาก็จะไม่มีวันถูกลบเลือนไปจากความทรงจำของแฟนบอลอย่างแน่นอน

 

 

สนับสนุนโดย sa-game.bet / pgcandy.com