4 ปี 200 เกม : ทำไม บรูโน่ เฟร์นันเดส จึงลงเล่นแทบทุกเกมได้โดยไม่เคยเจ็บเลย?

4 ปี 200 เกม : ทำไม บรูโน่ เฟร์นันเดส จึงลงเล่นทุกถ้วยและแทบทุกเกมได้โดยไม่เคยเจ็บเลย?

 

"เหนื่อยเหรอ ผมอายุ 26 ปีและผมก็ไม่เหนื่อยนะ ย้ำอีกครั้ง  ไม่เลย ผมไม่เหนื่อย" นี่คือสิ่งที่ บรูโน่ เฟร์นันเดส กองกลางผู้เปลี่ยนเเมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้าสู่โลกใบใหม่หลังห่างหายการดูฟุตบอลอย่าง "สนุก" มานานหลายปีนับตั้งแต่การจากไปของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

 

เขาอาจจะโม้เกินจริงก็ได้ แต่สถิติไม่เคยโกหก เราจะไม่นับย้อนไปไกลมากมายนัก เอาแค่ 4 ปีหลังสุดที่เขาลงสนามให้กับ ยูไนเต็ด และ สปอร์ติ้ง บรูโน่ ลงเล่นไปมากกว่า 212 นัด และที่สำคัญคือเขาไม่เคยได้พลาดลงสนามด้วยเหตุผลของอาการบาดเจ็บเลย?

 

อะไรคือเคล็ดลับความเป็นยอดมนุษย์ และอึดยิ่งกว่าคนเล็กของเขากันเเน่?

 

B.fernandes-ManU

บรูโน่ เฟร์นันเดส ย้ายมาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงเปิดตลาดซื้อขายนักเตะช่วงปีใหม่ ฤดูกาล 2019-2020

 

ร่างกายต้องได้เรื่อง

 

หากย้อนไปในวันที่ บรูโน่ เฟร์นันเดซ ย้ายทีมมาอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่มีใครปฎิเสธกล้าปฎิเสธแน่ว่าทุกคนมีความคิดว่า "จะไหวเหรอ?" เพราะด้วยด้านกายภาพหรือสรีระนั้น บรูโน่ จัดว่าเป็นมิดฟิลด์ที่มีรูปร่างผอมบางแบบสุดๆ  เขาหนักแค่ 69 กิโลกรัม แต่สูง 179 เซ็นติเมตร และด้วยตัวเลขดังกว่ามันชัดเจนว่าเขาต้องแย่แน่กับการเจอกับบอลที่เล่นกันถึงลูกถึงคนของฟุตบอลอังกฤษ

 

อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะมันเป็นสิ่งที่ผ่านการวิเคราะห์มวลร่างกายผ่านสไตล์การเล่นของตัวเองมาก่อนเเล้ว ทีมนักวิเคราะห์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด และ สปอร์ติ้ง ลิสบอน นั้นวางโปรเเกรมออกกำลังกายให้กับ บรูโน่ ในแบบที่คล้ายมากันมาก นั่นคือการไม่เน้นเรื่องการเวตเทรนนิ่งมากมายนัก แต่จะเป็นการออกกำลังกายเฉพาะส่วนอาทิขา,ต้นขา และช่วงของไหล่ ซึ่งเป็นส่วนที่ บรูโน่ ใช้งานเยอะที่สุดในสนาม

 

โดยปกติแล้ว บรูโน่ จะมีค่าเฉลี่ยการวิ่งต่อ 1 นัดคือ 11.3 กิโลเมตร และการวิ่งของเขาเป็นการสปรินท์(อัดเต็มสปีด)เสียส่วยใหญ่ โดยเฉพาะจังหวะสวนกลับ และการเล่นเพรสซิ่งในเเดนบน นั่นจึงทำให้ร่างกายที่เขาเน้นการ "ลีน" นั่นคือการไม่เน้นกล้าม แต่ลดไขมันในร่างกายแทน  ซึ่งหลักของการลีนคือการกินอาหารที่มีประโยชน์ และการออกกำลังกายก็เน้นไปที่การคาร์ดิโอ และการออกกำลังกายแบบยืดเหยียดมากกว่าการเวตเทรนนิ่ง  ซึ่งผลลัพท์ที่ได้มาคือพละกำลัง อาการบาดเจ็บที่ยากขึ้น และแน่นอนคือกำลังขาที่เป็นการออกกำลังกายเฉพาะส่วนด้วย

 

การออกกำลังกายเช่นนี้ทำให้ บรูโน่ มีค่าพลังความอึดที่สูงมาก สังเกตได้จากการวิ่งของเขาในแต่ละเกมนั้น บรูโน่ จะมีแรงสปีดจนกระทั่งนาทีที่ 90 แม้ว่าการลงสนามแบบถี่ๆเขาก็ยังไม่เปลี่ยนสไตล์การเล่นเลยแม้แต่น้อย

 

การจะรักษาร่างกายให้สามารถเล่นฟุตบอลได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น วินัย คือสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เรื่องนี้ บรูโน่ ยืนยันด้วยตัวเองว่า เขาพยายามทำตามที่ทีมงานนักโภชนาการและเทรนเนอร์ฟิตเนสส์บอกตลอด แม้กระทั่งย้อนกลับไปที่ในช่วงที่ฟุตบอลอังกฤษ หยุดแข่ง 3 เดือน เนื่องจากปัญหาโควิด-19 บรูโน่ ก็เป็นหนึ่งในนักเตะที่รายการผลการออกกำลังกายแบบ Work From Home ให้ทีมสต๊าฟของ แมนฯ ยูไนเต็ด รับทราบตลอด และปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัดด้วย

 

"ช่วงตอนเช้าผมตื่นนอนปกติแล้วก็กินข้าวเช้าพร้อมกับเล่นกับลูกๆอีกหน่อย และหลังจากพาสุนัขออกไปเดินเล่นผมก็จะเริ่มเข้าโหมดจริงๆจังๆ" บรูโน่ เริ่มกล่าว """ผมจะเริ่มซ้อมตามโปรเเกรมที่กำหนดเอาไว้ จากนั้นก็พักเที่ยง และต่อด้วยการซ้อมมื้อบ่ายทันที"

 

"กินอาหารที่ดี ฝึกให้หนัก และมีเวลาให้กับครอบครัว" เขากล่าวทิ้งท้าย

 

B.fernandes-training

ภาพการฝึกซ้อมของ บรูโน่ เฟร์นันเดส และเหล่าผู้เล่นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

 

เล่นจริงแบบไหน ซ้อมแบบนั้น

 

สนามซ้อมกับสนามจริงนั้นมีความแตกต่างกันเล็กๆ นักเตะอย่าง ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ อดีตกองหน้าของปีศาจเเดงเคยบอกไว้ว่าโดยปกติเเล้วการซ้อมของเขาสมัยอยู่กับ สเปอร์ส จะเป็นอะไรที่เน้นการทบทวนแท็คติกและความเข้าใจเกม นักเตะจะใส่กันเต็มที่ในระดับหนึ่ง ไม่ปล่อยพลังทั้งหมดออกมา ไม่ว่าจะในการเข้าบอล เข้าปะทะ หรือแม้แต่การพยายามทำอะไรที่ต้องใช้พลังทางร่างกายสูง

 

จนกระทั่งเมื่อเขามาอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด และได้ซ้อมกับนักเตะอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เขาจึงรู้ได้เลยว่าการซ้อมที่เคยผ่านมาในอดีตเป็นแค่น้ำจิ้มเท่านั้น เพราะสนามซ้อมที่ โรนัลโด้ ลงไป เขาจะใส่ไม่ยั้งไม่ต่างจากแข่งจริง เพราะคนอย่าง โรนัลโด้ นั้นอยากจะชนะตลอดเวลาไม่ว่าจะแข่งขันจริงหรือซ้อมตามโปรเเกรมก็ตาม

 

"การฝึกซ้อมบางครั้งมันเหมือนกับสงคราม นักเตะในทีมชุดนั้นเกลียดการพ่ายแพ้ มันเป็นสภาพแวดล้อมที่ดีและเต็มไปด้วยความกระหายชัยชนะ" เบอร์บาตอฟ กล่าวกับ Betfair

 

"คุณสามารถเห็นได้ว่า โรนัลโด้ ชอบการแข่งขันแค่ไหน โดยดูได้จากตารางการฝึกซ้อมของเขา เขาซ้อมหนักและต้องการที่จะเก่งกว่าคนอื่นๆ ถ้าเขาพลาดโอกาสหรือทีมแพ้ เขามุ่งมั่นจะเป็นผู้ชนะเสมอ"

 

"ผมโชคดีที่เคยเล่นร่วมกับ โรนัลโด้ เขาเป็นมืออาชีพ 100% ไม่ว่าในหรือนอกสนาม ผมจำไม่ได้เลยว่าเขาเคยมาซ้อมสาย เขาเตรียมตัวอยู่ที่ยิมก่อนเสมอ หลังซ้อมเสร็จเขาจะอยู่ซ้อมพิเศษเช่นการซ้อมยิงประตู จากนั้นเขาจะไปว่ายน้ำและไปเข้ายิมอีกครั้ง" นี่คือสิ่งที่ "เบิร์บ" ว่าเอาไว้เมื่อครั้งอดีต

 

ซึ่งสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดค่อนข้างตรงกับปากคำของเพื่อนๆ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่มีต่อ บรูโน่ เฟร์นันเดส นับตั้งเเต่เขาย้ายเข้ามาและซ้อมร่วมกับทีม บรูโน่ เป็นคนที่ชอบการแข่งขัน อยากเอาชนะ เขาเรียกบอลจากเพื่อนตลอดเวลาแม้กระทั่งการซ้อม เหตุผลเพราะว่าเขาชอบที่ทำหน้าที่สร้างเกมด้วยตัวเอง ซึ่ง สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์  กองกลางห้องเครื่องของทีมบอกว่า บรูโน่ เข้ามาในทีมและจริงจังกับการซ้อมมากตั้งแต่วันแรก เขากล้าสอนคนอื่นๆ กล้าติเตียน และเหนือสิ่งอื่นใดคือทำให้คนอื่นๆเห็นว่ามืออาชีพเป็นอย่างไร

 

"บรูโน่ ย้ายเข้ามาพร้อมกับความกระหายชัยชนะ คุณจะได้เห็นมันแม้กระทั่งการฝึกซ้อม เขาจะเรียกฟุตบอลจากเพื่อนตลอด เมื่อได้บอลเขาไม่เคยเพลย์เซฟและพร้อมเล่นลูกคิลเลอร์พาสเสมอ เขาเป็นจอมทัพที่มีความหิวกระหาย เข้ามาช่วยกระตุ้นทีม และนี่คือคนที่มีความสมบูรณ์แบบมากสำหรับสโมสรแห่งนี้" แม็คซอส ว่าเช่นนั้น 

 

นอกจาก แม็คโทมิเนย์ แล้ว เเดเนี่ยล เจมส์ คืออีกคนหนึ่งที่ยืนยันด้วยตัวเองว่าคนอย่าง บรูโน่ คือคนที่ขับเคลื่อนทั้งทีมได้ด้วยทัศนคติของผู้ชนะ เขาคือผู้นำอย่างไม่ต้องสงสัย

 

“คุณภาพของเขาก็เหมือนอย่างที่ทุกคนได้เห็น เขาทำผลงานน่าทึ่งตั้งแต่วันแรกที่มาที่นี่ เขามีบุคลิกโดดเด่นและมันเป็นแรงขับเคลื่อนที่ดี.. เราคุยกันบ่อย เพราะผมอยากเล่นให้ได้ระดับเดียวกับเขา "

 

นอกจากตัวของ บรูโน่ ที่ซ้อมหนักแล้ว เครดิตของความหาอึดของเขาคงต้องยกให้กุนซืออย่าง โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ด้วย เพราะแผนการซ้อมที่เขากำหนดขึ้นมา มีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนที่สุด 1 ข้อ และจุดนั้นคือการทำให้นักเตะในทีม “วิ่งได้มากกว่านักเตะทีมอื่น”

 

"ผมชอบที่จะทำงานกับทีมที่เล่นแบบทะลุทะลวงไปข้างหน้า วิ่งไล่บอล ทำงานหนักกว่าฝ่ายตรงข้าม เมื่อคุณเล่นให้กับทีม ยูไนเต็ด คุณไม่มีทางพูดแค่ว่าผมมีพรสวรรค์ เพราะนั่นมันไม่มีทางพอแน่นอน" 

 

"คุณต้องเตรียมตัวอย่างเหมาะสม คุณต้องหาทางทำงานให้เสร็จด้วยคุณภาพที่มี แต่เหนือสิ่งอื่นใดทัศนคติการเล่นสำคัญสุด”

 

"ต้องวิ่งให้มากกว่าคู่แข่ง, กระหายชัยมากกว่าพวกเขา เราต้องพัฒนาเพื่อเป็นผู้ท้าชิงแชมป์ และเราจะทำให้แน่ใจว่าแนวทางของสโมสรแห่งนี้เป็นอย่างไร"

 

นี่คือสิ่งที่ โซลชาร์ ว่าไว้ตั้งแต่ปี 2018 ที่เขาเข้ามาคุมทีม เขากล่าวว่านักเตะในทีม ยูไนเต็ด ไม่ฟิตมากพอ ไม่สามารถวิ่งได้ตลอดทั้งเกม ซึ่งจุดนั้นคือความต่างของโปรเเกรมซ้อมแบบใหม่ที่เขาและทีมสต๊าฟชุดใหม่คิดค้นขึ้นมาให้นักเตะมีความฟิตสูง สามารถเล่นฟุตบอลสมัยใหม่และเพรสซิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย

 

"เรารู้เสมอว่านักเตะต้องการอะไร ตอนนี้เรามีโค้ชอย่าง วอร์เรน จอยซ์(อดีตทีมงานของเฟอร์กี้) เข้ามาช่วยงาน และไม่ต้องห่วงเลยเพราะผมเคยทำงานร่วมกับเขามาเเล้ว โปรเเกรมซ้อมของเขาจะเป็นอะไรที่ยากที่สุดและหนักที่สุด นักเตะของเราจะพบหลังการซ้อมในวันนี้ว่า 'นี่คือันที่ยากที่สุดเท่าที่พวกเขาจะจินตนาการได้"

 

จากปากคำของเพื่อนๆ เห็นได้ชัดว่าจุดเริ่มต้นของความเป็นคนมหาอึด ที่คอยวิ่งหาบอลทั้งเกม วิ่งขึ้นเพื่อสร้างเกมรุก วิ่งมาช่วยเกมรับเมื่อทีมต้องการ เกิดจากสนามซ้อมทั้งสิ้น

 

ยิ่งมาเจอโปรเเกรมซ้อมแสนทรหดที่สร้างมาเพื่อก่อให้นักเตะแต่ละคนในทีมเกิดความฟิตขั้นสูงสุด วิ่งได้ไม่มีหมด  ดังนั้น บรูโน่ จึงมีพลังปอดและพลังขาที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย เขาแค่อยากได้บอลไว้กับเท้า นั่นคือเหตุผลที่เขายังคงวิ่งไม่หยุดจนกระทั่งทุกวันนี้

 

และอย่าว่าแต่เขาเลย นานมาเเล้วทีมฟุตบอลของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นบอลที่ช้าเนิบนาบ ตกยุคเพราะความฟิตไม่ถึง ตอนนี้พวกเขาพัฒนาทีมขึ้นมาอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาแค่ปีเดียว ซึ่งแน่นอนว่าการใส่ไม่ยั้งทั้งในโปรเเกรมฝึกซ้อม และการมีผู้นำที่แสดงความทุ่มเทในการซ้อมอย่าง บรูโน่ เฟร์นันเดส นั้นมีผลกระทบในแง่บวกของทีมขนาดไหน

 

Bruno-F.

บรูโน่ เฟร์นันเดซ วิ่งลืมตายลงสนามไปกว่า 200 เกมภายในระยะเวลาไม่ถึง 4 ปีที่ผ่านมา

 

จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว

 

คุณเคยได้ยินเรื่อง จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว หรือเปล่า? นี่คือคำกล่าวที่หมายถึง "พลังใจ" ของมนุษย์ ทีหากว่ามีมันมากพอ มันสามารถทำให้ร่างกายไปไกลกว่าขีดจำกัดได้..

 

ไม่ว่าคุณจะเคยดูฟุตบอลมากี่ปี จะเป็นขาเก๋า หรือแม้กระทั่งเพิ่งเริ่มดู คุณสามารถรู้ได้ทันทีว่าการเล่นแบบ บรูโน่ เฟร์นันเดส และการวิ่งเกมละเกือบ 12 กิโลเมตร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการวิ่งแบบสปรินท์เต็มตีนตลอด มันทำให้เกิดความเหนื่อยขนาดไหน ... ไม่ว่า บรูโน่ จะพูดว่าร่างกายเขาไม่เหนื่อยหรือรับได้ทุกการแข่งขันขนาดไหน ความจริงทุกคนรู้ดี เขาโกหกผ่านสีหน้าและกิริยาไม่ได้หรอก หากใครได้ชมเกมการแข่งขันของ ยูไนเต็ด ที่ บรูโน่ ลงสนามจะเห็นได้ว่าช่วง 10-15 นาทีสุด เขาจะมีอาการอ่อนแรงลงชัดเจน ทุกครั้งที่วิ่งไล่จนบอลตาย เขาจะเอามือเท้าเข่าด้วยสีหน้าอิดโรย หรือแม้แต่การวางเท้ายิงไกลที่เคยทำได้หนักหน่วงก็เบาลงกว่าปกติเยอะเลยทีเดียว

 

อย่างไรก็ตาม บรูโน่ ไม่ได้โกหก... เขาอาจจะดูเหนื่อย แต่เขาพูดว่าไม่เหนื่อยเพราะเขาไม่รู้ตัวว่าตัวเองเหนื่อยเท่านั้นเอง อย่างที่กล่าวไปข้างต้นจิตวิญญาณของผู้ชนะของเขาเต็มเปี่ยมมากจนทำให้เขาเค้นพลังวิ่งได้จนหมดทั้งเกม 

 

"เหนื่อยเหรอ ผมอายุ 26 ปีและผมก็ไม่เหนื่อยนะ ย้ำอีกครั้ง  ไม่เลย ผมไม่เหนื่อย" นี่คือสิ่งที่เขายืนยันด้วยตัวเอง เมื่อไม่นานมานี้

 

ขณะที่  โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ กุนซือของทีมพูดถึงลูกทีมคนเก่งของเขา ที่คลุกคลีกันมาโดยตลอดนับตั้งแต่ย้ายมา ก็ยืนยันว่าการแสดงออกของ บรูโน่ นั้นทำให้เขาไม่อยากจะดรอปจอมทัพชาวโปรตุกีสไว้ข้างสนาม เพราะนักเตะสามารถวิ่งได้เต็มที่เสมอ เมื่อเท้าแตะสนาม สีหน้าเขาอาจจะบอกอีกอย่าง แต่สิ่งที่ บรูโน่ ทำต่างหากที่ทำให้ โซลชาร์ เชื่อว่าจอมทัพคนนี้ยังไหว...

 

“เขาไม่เหนื่อย ไม่มีทางเลย เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่วิ่งไปทั่วสนามทุกนัด เขาดีมากในเรื่องการฟื้นฟูร่างกาย และเติมพลังให้ตัวเอง” นี่คือสิ่งที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ กุนซือของทีมพูดถึงลูกทีมคนเก่งของเขา

 

Bruno-Fernandes

ปัจจุบัน บรูโน่ เฟร์นันเดส ลงสนามให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปแล้ว 57 นัด ยิงไป 33 ลูก กับอีก 18 แอสซิสต์

 

คุณจะเห็นความดุดัน ความมุ่งมั่น การดูแลตัวเอง และเหนือสิ่งอื่นใดคือ "มายด์เซ็ต" ที่บอกเสมอว่าตัวเองต้องเต็มที่ทุกการแข่งขัน ทำให้นักเตะอย่าง บรูโน่ สามารถเข็นสไตล์วิ่งสู้ฟัดลงสนามได้ทุกครั้งไป แม้กระทั่งในซีซั่น 2020-21  ที่โปรเเกรมฟุตบอลถี่ยิบ บรูโน่ ก็ลงสนามให้กับ ยูไนเต็ด "แทบทุกเกม" เขาลงเล่นในทุกรายการที่ปีศาจเเดงลงเเข่งขันในซีซั่น ซึ่งแน่นอนว่าร่างกายของเขานั้นมันมีดีจริงๆ

 

เหนือสิ่งอื่นใด สิ่งที่ บรูโน่ ทำทุกวันมันเหมือนกับการสะกดจิตตัวเอง "กูไม่เหนื่อย กูไม่เหนื่อย" สุดท้ายร่างกายเขาก็แสดงออกอย่างนั้นจริงๆ

 

และมีเรื่องยืนยันถึงการไม่เหนื่อยของเขาได้เป็นอย่างดี เรื่องราวเกิดขึ้นในหลังซีซั่น 2019-20 จบลง ฤดูกาลนั้นเป็นฤดูกาลที่ไม่ปกติ แต่ละทีมต้องลงเล่นโปรเเกรมอัดกันรัวๆ แทบไม่ได้หายใจหายคอเพราะการระบาดของไวรัสโคโรน่า 

 

นั่นเองทำให้พอเมื่อฤดูกาลจบสิ้นลง หลายสโมสรปล่อยนักเตะออกจากแคมป์และยืนยันว่า “ไปพักผ่อนให้เต็มที่” บรูโน่ เองก็โดนคำสั่งนั้นเช่นกัน ทุกคนคิดว่าเขาเหนื่อย… แต่เขาไม่

 

หลังจากโดนปล่อยพัก บรูโน่ กลับบ้านเกิดที่โปรตุเกส และไปพักผ่อนจริงๆไม่ถึง 5 วัน เขาปรากฎตัวในสนามของสโมสร เบาวิสต้า สโมสรในลีกโปรตุเกส และสิ่งที่วีดีโอบันทึกไว้ได้คือ บรูโน่ เฟร์นันเดส ลงซ้อมต่อแบบเหลือเชื่อ

 

เบาวิสต้า เปิดสโมสรให้เขาสามารถใช้งานได้เต็มที่ และ บรูโน่ ก็เพิ่มซ้อมด้วยการยิงฟรีคิกระยะไกล และระยใกล้ รวมถึงลูกจุดโทษ และแน่นอนการเรียกฟิตในโรงยิมด้วย

 

"ขอบคุณสโมสรเบาวิสต้าที่ช่วยเหลือผมอย่างเต็มที่ ทำให้ผมอยู่ในสภาพร่างกายที่พร้อมสำหรับฤดูกาลใหม่ การฝึกซ้อมทำให้ผมเติบโตและสามารถทำให้ผมมีชีวิตค้าแข้งที่ยอดเยี่ยมอยู่เสมอ" เขาให้สัมภาษณ์กับสื่อในโปรตุเกสอย่าง O jogo

 

แม้กระทั่งคนอื่นพัก เขาก็ยังไม่พัก… บรูโน่ หลอกร่างกายตัวเองด้วยทัศนคติของคนที่ทะเยอทะยาน เขาไม่รู้สึกเหนื่อย ตราบใดที่การเหนื่อยนั้นหมายความว่าฝีเท้าของเขาจะเก่งกาจขึ้นกว่าเดิม

 

เรื่องจิตเป็นนาย การเป็นบ่าวนี้ไม่ใช่เรื่องตลกมันตรงกับ "ทฤษฎีจิตใต้สำนึก"ค้นพบโดยนักจิตวิทยาชาวอเมริกันคนหนึ่ง ที่บอกว่าความเชื่อฝังหัวสมอง,จิตใต้สำนึก, หรือจะเรียกว่าอะไรก็ตามแต่สามารถหลอกร่างกายของเราได้จริงๆ

 

อาทิ ในการทดลองนั้นทางด้านนักสะกดจิตนั้น จะสั่งให้ผู้ที่ถูกสะกดจิต นั้นมีความรู้สึกร้อนเหมือนอยู่กลางทะเลทราย ทั้งที่จริงแล้ว ในขณะนั้นเป็นฤดูหนาวที่มีภูมิอากาศติดลบ แต่ผู้ถูกสะกดจิตก็รู้สึกร้อนถอดเสื้อผ้าออกและอาบน้ำเย็น โดยไม่รู้สึกหนาวแม้ แต่น้อย ...นี่คือ 1 ตัวอย่างที่ทำให้เราเห็นว่า "จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าวมีอยู่จริง"  แบบที่ บรูโน่ เฟร์นันเดส ทำอยู่ทุกวันนี้ไม่ใช่เรื่องยกเมฆ แต่มีการทดลองยืนยันมาเเล้ว

 

พักสั้นหรือพักน้อยไม่ใช่ประเด็นสำคัญ สิ่งสำคัญสำหรับ บรูโน่ เฟร์นันเดส คือเขาจะทำอย่างไรให้ตัวเองเก่งขึ้น พาตัวเองเป็นแมตช์วินเนอร์ วิ่งชนกับชัยชนะได้มากขึ้น … เหนื่อยก็พัก แต่การอยู่ไปวันๆ โดยที่ไม่พัฒนาตัวเอง และยอมรับความพ่ายแพ้แบบไม่คิดสู้นั้นคือสิ่งที่ บรูโน่ ยอมรับไม่ได้

 

"ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะเล่นกับเพื่อนของผม พี่น้องของผม หรือเพื่อนบ้านของผม ผมต้องการชนะตลอดเวลา ความคิดแบบนี้คงจะติดตัวผมไปตลอดชีวิต ผมคิดว่าแบบนั้น" บรูโน่ ว่าเช่นนั้น และแน่นอนว่าด้วยความสมบูรณ์แบบของร่างกาย การซ้อมที่ทำให้ร่างกายคุ้นชินกับสไตล์การเล่น และที่สำคัญ "พลังของจิตใจ" ที่แข็งแกร่งเกินต้าน ... ทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่ บรูโน่ เฟร์นันเดซ วิ่งลืมตายลงสนามไปกว่า 200 เกมภายในระยะเวลาไม่ถึง 4 ปีที่ผ่านมานั่นเอง

 

 

แหล่งอ้างอิง

 

https://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-8061977/Manchester-United-staff-blown-away-form-fitness-Bruno-Fernandes.html

https://www.goal.com/en/news/man-utd-boss-solskjaer-issues-red-devils-rallying-cry/1lhfh92v7gccl1wg5bu2jobmg7

https://www.manutd.com/en/news/detail/opinion-united-late-goals-show-stamina-and-provide-perfect-boost-for-fans

https://www.manutd.com/en/news/detail/ole-gunnar-solskjaer-on-the-effort-that-his-manchester-united-players-need-to-show

https://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-9163555/Ole-Gunnar-Solskjaer-claims-Manchester-United-star-Bruno-Fernandes-NOT-tired.html

https://thefootballfaithful.com/solskjaer-no-chance-bruno-fernandes-tired

https://www.world-today-news.com/i-looked-down-on-each-other-too-bruno-never-was-tired-even-though-he-continued-on-the-pitch-for-manchester-united/

 

เว็บพนันออนไลน์ ฝากถอน ไม่มี ขั้น ต่ํา