ในเกมเช่นนี้อาจเป็นเรื่องยากที่จะต้านทานแรงกระตุ้นที่จะคร่ำครวญถึงความไม่เต็มใจของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ที่จะเล่นแบบอิสระ 1-0-9 โดยมีฟิล โฟเด้นรับบทเป็นผู้เก็บกวาดและแฮร์รี่ เคนเป็นผู้นำการโจมตีแบบกงเหอ (กระเหี้ยนกระหือรือ) ของราฮีม สเตอลิ่ง, เมสัน เมาท์, แกรี่ ลินิเกอร์, คีเลียน เอ็มบัปเป้, เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์, เปเล่, มาราโดน่า และอาลี ดาอี

ทำไมเซาธ์เกตถึงปฏิเสธที่จะทำมัน? ทำไมเขาถึงตั้งใจที่จะไม่เอาใจแฟนบอล? หรือเขาเป็นอ็อตโต้ เรห์ฮาเกลปลอมตัวมา? คำถามทั้งหมดเหล่านี้กำลังเป็นประเด็นร้อน เมื่ออังกฤษต้องพยายามดิ้นรนเพื่อหาทางรอดพ้นเกมในสนามไปอย่างเชื่องช้าจนน่ากลัวในบ้านของแอลเบเนีย ซึ่งปฏิเสธที่จะเล่นกีฬาที่ดีด้วยการกลับตัวและทำให้ชีวิตพุ่งตรงไปสู่ด้านที่ใหญ่กว่า

ในช่วงครึ่งแรกมีความเป็นไปได้ที่จะพบว่าเริ่มมีการวิเคราะห์เกมและการสาปแช่งบนทวิตเตอร์แหล่งรวมของความอดทนและการพิจารณาถกเถียงกัน โดยหัวข้อ "Two CDMs (สองกองกลางตัวรับ – Two Central Defensive Midfielder)" กำลังได้รับความนิยม เป็นอีกครั้งที่เซาธ์เกตถูกวิจารณ์อย่างรุนแรงถึงการคาดเดาการเฝ้าระวังของเขา แม้ว่าเขาจะติดอยู่กับรูปแบบ 4-3-3 ที่แฟนบอลชอบใจแทนที่จะหวนกลับไปเป็นหลังสาม เขาได้รับการขนานนามในแง่ความน่าสนใจ โดยการหาที่ว่างให้กับฟูลแบ็กความเร็วสูงสองคน กองกลางดาวรุ่งที่สร้างสรรค์การเล่นที่ดีที่สุดสองคนในพรีเมียร์ลีก หนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดของแมนเชสเตอร์ซิตี้ และหนึ่งในกองหน้าที่เฉียบคมที่สุดในโลก

นั่นคือชีวิตเมื่อต้องเป็นผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ผู้ต้องใจเย็น ควบคุมตัวเอง และไร้อารมณ์ อย่างที่พวกเขาโค่นแอลเบเนียลงได้ในท้ายที่สุด คว้าชัยชนะที่น่าอึดอัดใจด้วยประตูจากเคนและเมาท์ซึ่งดูมั่นใจมากขึ้นในเวทีระหว่างประเทศ

ความกังวลสำหรับเซาธ์เกตก็คือมันเป็นเรื่องง่ายที่จะเห็นว่าทีมกำลังมุ่งหน้าไปที่ใดเมื่อยูโร 2020 ใกล้เข้ามา ความผิดร้ายแรงของเขาเริ่มต้นที่การส่งคาลวิน ฟิลลิปส์และดีแคลน ไรส์ในตำแหน่งกองกลางไปเผชิญหน้ากับแอลเบเนีย! กองกลางป้องกันสองคนกับทีมของแอลเบเนีย แอลเบเนียเนี่ยนะ! พวกเขามีฟุตบอลหรือเปล่าเถอะ? นี่เป็นสัญญาณของสิ่งที่กำลังจะมาถึงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันบ่งชี้ว่าเซาธ์เกตมีแนวโน้มที่จะวางกองกลางตัวลึกสองคนในเกมที่อังกฤษเปิดศึกชิงแชมป์ยุโรปกับโครเอเชีย ความรู้สึกต่อต้านแกเร็ธ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นับตั้งแต่การแข่งขันเนชั่นส์ลีกที่น่าผิดหวังเมื่อฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว

เซาธ์เกตถูกแสดงให้เห็นมากขึ้นเรื่อย ๆ ในฐานะผู้จัดการเชิงลบที่ไม่ยอมยกเบรกมือและปล่อยให้ทีมขับเคี่ยวผ่านคู่ต่อสู้ที่โชคร้าย แนวปฏิบัติของเขา ที่ไม่ต้องพูดถึงแบ็คขวา ถือว่าไม่เป็นที่พอใจในช่วงเวลาที่อังกฤษมีทางเลือกในการโจมตีมากมายซึ่งผู้เล่นที่เก่งกาจและมีจินตนาการอย่างเจมส์ แมดดิสันมีแนวโน้มที่จะพลาดโอกาสในทีม

แต่เซาธ์เกตไม่ได้ถูกว่าจ้างให้เล่นฟุตบอลแบบตื่นตาตื่นใจ ในโลกที่สมบูรณ์แบบเขาจะสามารถปล่อยให้ไรซ์กวาดไปหน้าแบ็คโฟร์ วางเมาท์และฟิล โฟเดนในตำแหน่งกองกลางเอนกประสงค์และเล่นแบบกองหน้าสามคนของเคน, สเตอร์ลิ่งและมาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ไม่ได้ลงด้วยอาการบาดเจ็บ เขาสามารถยัดเยียดทุกคนเข้ามา – บางทีอาจจะหาช่องว่างให้แจ็ค กรีลิชในฐานะแบ็คซ้ายตัวหลอก และอังกฤษจะต้องเผชิญกับความทุกข์ยากไม่ว่าใครก็ตามที่พวกเขาต้องเผชิญชนะยูโรอย่างไม่ยากเย็น เมื่อถึงจุดใดก็คงคุ้มค่าที่จะตื่นขึ้นมา ความหยิ่งน้อยลงเล็กน้อยอาจเป็นความคิด สามปีที่แล้วอังกฤษเข้าสู่รอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลกด้วยฟอร์มที่ค่อนข้างธรรมดา มันน่าตื่นเต้นเพราะมาแบบม้ามืดและสนุกสนาน เพราะบรรดาศักดิ์ที่ลดน้อยลงของคนรุ่นทองนั้นไม่มีให้เห็นแล้ว แม้ว่าตอนนี้คำพูดคุยโวที่ทำให้อยู่ในอันตรายกำลังกลับมา เซาธ์เกตไม่เพียงแค่ต้องชนะเท่านั้น นักวิจารณ์ของเขายังให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดกับความบันเทิงที่คาดหวัง

ปัญหาคือทีมชาติอังกฤษซึ่งค่อนข้างรู้ตัวดีที่จะละอายในตัวเองเมื่อพวกเขาอวดดีเกินไปกำลังจะเผชิญหน้ากับฝ่ายที่อาจทำให้พวกเขามีปัญหาในช่วงซัมเมอร์นี้ ด้วยเวลาเพียงเล็กน้อยในการทำงานกับรูปแบบการโจมตีที่ประสานงานกันหลังจากตารางงานในประเทศที่หมดลงอังกฤษจึงไม่ได้เปลี่ยนเป็นบาร์เซโลน่าของเป๊ป กวาร์ดิโอล่าเพียงเพราะพวกเขามีผู้เล่นอายุน้อยที่น่าสนใจ

ทีมชาติอังกฤษที่ได้ลองสตีเวน เจอร์ราร์ดและแฟรงค์ แลมพาร์ดแล้วโดยผลัดกันรับตำแหน่งนี้ ก็ยังต้องโชว์กึ๋นในเกม พวกเขาไม่สามารถขอให้ไรส์ในวัย 22 ปีที่ไม่เคยเล่นในยุโรปในระดับสโมสรแบกรับภาระการครองบอลต่อหน้าการป้องกันที่ไม่น่าไว้วางใจ