แฟรงค์ แลมพาร์ด กุนซือหนุ่มไฟแรง ที่รอวันหวนกลับมาคุมทัพอีกครั้ง

แฟรงค์ แลมพาร์ด กุนซือหนุ่มไฟแรง ที่รอวันหวนกลับมาคุมทัพอีกครั้ง

 

ถ้าหากจะพูดถึงกุนซือหนุ่มไฟแรงแห่งวงการฟุตบอลอังกฤษ เชื่อว่าแฟนบอลจำนวนไม่น้อยน่าจะนึกถึงชื่อของ แฟรงค์ แลมพาร์ด อดีตกองกลางระดับตำนาน และอดีตกุนซือของทัพสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวทีพรีเมียร์ลีก อย่างแน่นอน เพราะว่าเขาคนนี้ เคยได้รับการจับตามองเป็นอย่างมาก สมัยคุมทัพแกะเขาเหล็ก ดาร์บี้ เคาท์ตี้ และวันนี้เราจะขอพาทุกท่านไปทำความรู้จัก แฟรงค์ แลมพาร์ด กุนซือหนุ่มไฟแรงกันให้มากยิ่งขึ้น

 

frank-lampard-darby

แฟรงค์ แลมพาร์ด เริ่มต้นงานกุญซือกับทีม ดาร์บี้ เคาร์ทตี้ ในเดอะแชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ

 

เส้นทางการเป็นกุนซือของ แฟรงค์ แลมพาร์ด 

แฟรงค์ แลมพาร์ด มีชื่อเต็มว่า แฟรงค์ เจมส์ แลมพาร์ด เกิดเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ปีคริสตศักราช 1978 ที่ย่านรอมฟอร์ด กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เริ่มต้นเล่นฟุตบอลในระดับเยาวชนกับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ก่อนจะได้เลื่อนขั้นขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ ในปีคริสตศักราช 1995 และได้ย้ายไปค้าแข้งกับ เชลซี ในปีคริสตศักราช 2001 จนได้รับการยกย่องให้เป็นกองกลางระดับตำนานของทีม หลังทำไปได้มากถึง 211 ประตู จากการลงสนาม 429 เกม ตลอดระยะเวลา 14 ปี จากนั้นได้ย้ายไปอยู่กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ นิวยอร์ก ซิตี้ เป็นระยะเวลาสั้นๆ ก่อนจะตัดสินใจยุติเส้นทางการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ในปีคริสตศักราช 2016 เพื่อเริ่มต้นเส้นทางการเป็นกุนซือ และแล้วโอกาส แฟรงค์ แลมพาร์ด ก็มาถึงในช่วงเดือนพฤษภาคม ปีคริสตศักราช 2018 หลังได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ผู้จัดการทีม ของ ดาร์บี้ เคาท์ตี้ ทีมในลีกรองของวงการฟุตบอลอังกฤษ ซึ่งผลงานของเขาถือว่ายอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก หลังพาทีมจบฤดูกาลด้วยอันดับ 6 ของตารางคะแนน และเกือบจะพาทัพแกะเขาเหล็ก เลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ลีกสูงสุดได้สำเร็จ น่าเสียดายที่พวกเขาพ่ายแพ้ให้กับแอสตัน วิลลา ในศึกเพลย์ออฟ นัดชิงชนะเลิศ ไปด้วยสกอร์ 1-2 แต่กระนั้น ชื่อของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ก็ได้รับการจับตามองเป็นอย่างมาก ในฐานะกุนซือหนุ่มไฟแรงแห่งวงการฟุตบอลเมืองผู้ดี 

 

frank-lampard-chelsea

แฟรงค์ แลมพาร์ด ได้รับโอกาสมาคุมทีมเชลซีในฤดูกาลด้วยพาทีมจบอันดับ 4 ก่อนที่ฤดูกาลต่อมาฟอร์มกลับดิ่งลงเรื่อยๆ

 

ความล้มเหลวของ แฟรงค์ แลมพาร์ด กับทัพสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี 

ในช่วงเดือนกรกฎาคม ปีคริสตศักราช 2019 พลพรรคสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ได้ทำการแต่งตั้ง แฟรงค์ แลมพาร์ด ขึ้นมาเป็น ผู้จัดการทีม คนใหม่ แทนที่ของ เมาริซิโอ ซาร์รี ท่ามกลางความคาดหวังของเหล่าแฟนบอล ซึ่งต้องยอมรับว่า นี่ถือเป็นงานที่หนักมาก เพราะว่า แฟรงค์ แลมพาร์ด จะไม่สามารถคว้านักเตะใหม่เข้ามาเสริมทีมได้เลย เนื่องจากเชลซี ถูกลงโทษแบนห้ามซื้อขายนักเตะ ผลงานของเขาจึงไม่ค่อยสู้ดีนัก เริ่มต้นด้วยการพ่ายแพ้ให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมเปิดฤดูกาล ไปแบบขาดลอย ด้วยสกอร์ 0-4 ต่อด้วยการแพ้จุดโทษให้กับลิเวอร์พูล ในศึกยูฟ่า ซูเปอร์คัพ หลังจากนั้นผลงานในลีกก็ขึ้นๆ ลงๆ ไม่ค่อยสม่ำเสมอมากนัก ฟุตบอลถ้วยก็ไม่ประสบความสำเร็จ หลังพ่ายให้กับอาร์เซน่อล ในศึกเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ ขณะที่ศึกยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก ก็ต้องกระเด็นตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ด้วยน้ำมือของบาเยิร์น มิวนิค ชนิดที่สู้ไม่ได้เลย แต่กระนั้น แฟรงค์ แลมพาร์ด ก็ยังสามารถพาทีมจบฤดูกาล 2019-2020 ด้วยอันดับ 4 ของตารางคะแนน คว้าตั๋วไปลุยศึกยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก ได้สำเร็จ ในตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แฟรงค์ แลมพาร์ด เสริมความแข็งแกร่งให้กับ เชลซี ด้วยนักเตะมากมาย รวมมูลค่าหลายร้อนล้านปอนด์ ซึ่งในช่วงแรกของฤดูกาล 2020-2021 ผลงานของเขาถือว่ายอดเยี่ยมเลยทีเดียว ผงาดขึ้นไปรั้งตำแหน่งจ่าฝูงของตารางคะแนนในช่วงเดือนธันวาคม ก่อนที่ผลงานจะรูดหนัก เก็บชัยชนะไม่ได้เลย 8 เกมติดต่อกัน ร่วงลงไปรั้งอันดับ 9 ของตารางคะแนน กระทั่งวันที่ 24 มกราคม ปีคริสตศักราช 2021 แฟรงค์ แลมพาร์ด ก็ถูกปลดออกจากตำแหน่งในที่สุด

 

frank-lampard-manager

 

แม้ว่า แฟรงค์ แลมพาร์ด จะไม่ประสบความสำเร็จเท่าไรนัก ในตอนที่คุมทัพสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี แต่ก็ใช่ว่าเขาจะอ่อนด้อยฝีมือในการคุมทีม เพราะผลงานสมัยที่คุมทัพแกะเขาเหล็ก ดาร์บี้ เคาท์ตี้ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า แฟรงค์ แลมพาร์ด เป็นคนที่มีของพอสมควร ซึ่งถ้าหาก แฟรงค์ แลมพาร์ด ได้รับการสะสมประสบการณ์อีกสักหน่อย เชื่อเหลือเกินว่า เขาจะต้องกลายเป็นหนึ่งในสุดยอดกุนซือ แห่งโลกลูกหนังในอนาคตอย่างแน่นอน

 

 

sagame