เอ็ดดี้ ฮาว ชายหนุ่มผู้เป็นตำนานที่ยังมีลมหายใจแห่งบอร์นมัธ 

เอ็ดดี้ ฮาว ชายหนุ่มผู้เป็นตำนานแห่งบอร์นมัธ 

 

eddie-howe-player

เอ็ดดี้ ฮาว (Eddie Howe) สมัยยังเป็นนักเตะของทีมบอร์นมัธ โดยไต่เต้าขึ้นมาจากทีมเยาวชน

 

เคยสงสัยกันบ้างหรือไม่ ว่าเพราะสาเหตุใด ชื่อของ เอ็ดดี้ ฮาว กุนซือหนุ่มชาวอังกฤษ จึงมักจะถูกเชื่อมโยงกับบรรดาสโมสรชื่อดังแห่งเวทีพรีเมียร์ลีก อยู่เสมอ ในยามที่มีการปลดกุนซือออกจากตำแหน่ง ทั้งที่ตัวเขาก็เป็นแค่เพียงอดีตกุนซือของทัพเดอะ เชอร์รีส์ บอร์นมัธ สโมสรที่เพิ่งจะกระเด็นตกชั้นจากเวทีพรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 2019-2020 ที่ผ่านมา แถมยังไม่มีประสบการณ์ในการคุมทีมระดับท็อปมาก่อนเลย และวันนี้เราจะขอพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ เอ็ดดี้ ฮาว กันให้มากยิ่งขึ้น

 

eddie-howe-manager

เอ็ดดี้ ฮาว ได้รับการแต่งตั้งให้ทำหน้าที่เป็น ผู้จัดการทีมชั่วคราว ของบอร์นมัธ ในช่วงปลายปั 2008

 

จุดเริ่มต้นเส้นสู่ทางการเป็นกุนซือของ เอ็ดดี้ ฮาว

เอ็ดดี้ ฮาว มีชื่อเต็มว่า เอ็ดเวิร์ด จอห์น แฟรงก์ เอ็ดดี้ ฮาว เกิดเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ปีคริสตศักราช 1977 ที่ย่านแอเมอร์สแฮม ประเทศอังกฤษ เคยเป็นนักฟุตบอลอาชีพในตำแหน่งกองหลังมาก่อน โดยเริ่มต้นเล่นฟุตบอลในระดับเยาวชนกับบอร์นมัธ แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จเท่าไรนัก เนื่องจากมีรูปร่างที่ค่อนข้างเล็ก แถมยังถูกอาการบาดเจ็บบริเวณหัวเข่าตามเล่นงานอย่างหนัก ทำให้ Eddie Howe จำเป็นต้องยุติเส้นทางการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ในปีคริสตศักราช 2007 ด้วยวัยเพียงแค่ 29 ปีเท่านั้น แต่ในความโชคร้ายก็ยังพอมีความโชคดีอยู่บ้าง เมื่อ เอ็ดดี้ ฮาว ได้รับการแต่งตั้งให้ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยโค้ชให้กับทีมสำรอง และทีมชุดใหญ่ของบอร์นมัธ เนื่องจากเขาถือเป็นอดีตนักเตะที่อยู่กับสโมสรมาอย่างยาวนาน ก่อนจะได้รับการแต่งตั้งให้ทำหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมสำรองของบอร์นมัธ อย่างเต็มตัวในอีกไม่กี่เดือนถัดมา ซึ่งนี่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางการเป็น ผู้จัดการทีม ของ เอ็ดดี้ ฮาว เลยก็ว่าได้ แต่เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าว บอร์นมัธ ประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก ทำให้ถูกตัดแต้มไปมากถึง 10 แต้ม ส่งผลให้พวกเขาต้องกระเด็นตกชั้นลงไปเล่นในลีกทู ในฤดูกาล 2008-2009 ก่อนจะถูกตัดเพิ่มอีก 17 แต้ม เนื่องจากปัญหาทางด้านการเงินยังไม่ได้รับการแก้ไข ประกอบกับฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่ จนร่วงลงไปอยู่ในโซนตกชั้น เอ็ดดี้ ฮาว ในวัย 31 กะรัต จึงได้รับการแต่งตั้งให้ทำหน้าเป็น ผู้จัดการทีม ชั่วคราวของปีสโมสร ในช่วงปลายเดือนธันวาคม ของปีคริสตศักราช 2008 

 

eddie-howe-manager.-1

ฤดูกาล2014/15 เอ็ดดี้ ฮาว พาบอร์นมัธ เถลิงบัลลังก์แชมป์เดอะ แชมป์เปี้ยนส์ชิพ ส่งผลให้พวกเขาเลื่อนชั้นขึ้นสู่เวทีพรีเมียร์ลีก

 

เอ็ดดี้ ฮาว กับการเป็นตำนานของบอร์นมัธ

หลังจากที่ เอ็ดดี้ ฮาว ก้าวเข้ามาคุมทีม ผลงานของบอร์นมัธ ก็ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสามารถรอดพ้นจากการตกชั้นได้สำเร็จ ส่งผลให้ เอ็ดดี้ ฮาว ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทำหน้าที่ ผู้จัดการทีม อย่างเต็มตัวเป็นครั้งแรก ซึ่งในฤดูกาล 2009-2010 เขาก็สามารถพาบอร์นมัธ เลื่อนชั้นกลับสู่ลีกวัน ได้สำเร็จ ก่อนจะตัดสินใจย้ายไปคุมที่ใหญ่กว่า อย่าง เบิร์นลีย์ ในปีคริสตศักราช 2011 แต่คุมได้เพียงแค่ 1 ปี เขาก็ตัดสินใจย้ายกลับมาคุมบอร์นมัธ อีกครั้ง และก็สามารถพาทีมเลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกพระรองของวงการฟุตบอลอังกฤษ ได้สำเร็จในฤดูกาล 2012-2013 กระทั่งฤดูกาล 2014-2015 เอ็ดดี้ ฮาว ในวัย 37 กะรัต สามารถพาบอร์นมัธ เถลิงบัลลังก์แชมป์เดอะ แชมป์เปี้ยนส์ชิพ ส่งผลให้พวกเขาเลื่อนชั้นขึ้นสู่เวทีพรีเมียร์ลีก เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร ซึ่งผลงานบนลีกสูงสุดของวงการฟุตบอลเมืองผู้ดี ของเขาก็ถือว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว หลังสามารถพาทีมอยู่รอดปลอดภัยมาได้อย่างยาวนาน ทั้งที่มีงบประมาณในการเสริมทัพอย่างจำกัดจำเขี่ย แถม Eddie Howe ยังเนรมิตบอร์นมัธ ให้กลายเป็นทีมที่สามารถเล่นฟุตบอลได้อย่างสวยงาม จนได้รับข้อเสนอจากทัพไอ้ปืนใหญ่ อาร์เซน่อล ให้ไปคุมทัพแทนที่ของ อาร์แซน เวนเกอร์ แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะปฏิเสธข้อดังกล่าวไป ทำให้แฟนบอลของบอร์นมัธ รู้สึกรัก และเทิดทูนในตัวของ เอ็ดดี้ ฮาว เป็นอย่างมาก ถึงขนาดยกย่องให้เขาเป็นหนึ่งในตำนานของสโมสรเลยทีเดียว น่าเสียดายที่บอร์นมัธ ต้องตกชั้นในฤดูกาล 2019-2020 นำมาสู่การลาออกของ เอ็ดดี้ ฮาว ปิดฉากเส้นทาง 25 ปี นับตั้งแต่สมัยที่ตัวเขายังเป็นนักเตะระดับเยาวชน ไปอย่างน่าเจ็บปวด 

 

eddie-howe

เอ็ดดี้ ฮาว ผู้จัดการทีมผู้กลายเป็นตำนานของบอร์นมัธ

 

ถึงแม้ว่า เอ็ดดี้ ฮาว จะไม่สามารถช่วยให้บอร์นมัธ รอดพ้นจากการตกชั้นในฤดูกาล 2019-2020 ที่ผ่านมา แถมตัวเขาก็กำลังอยู่ในสถานะว่างงาน แต่ผลงานที่ผ่านมาทั้งหมดของเขา ก็สามารถยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า เอ็ดดี้ ฮาว คือตำนานตัวจริงของบอร์นมัธ สโมสรเล็กๆ ในแถบชายทะเลของประเทศอังกฤษ และปัจจุบันเขาก็ได้กลายเป็นกุนซือหนุ่มไฟแรงที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดของวงการฟุตบอลแดนผู้ดี ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

 

gclub