เสี่ยงแต่สนุกไปกับกีฬาวิ่งเเข่งส้นสูง (Running in High Heels)

เสี่ยงแต่สนุกไปกับกีฬาวิ่งเเข่งส้นสูง หรือ (Running in High Heels)

การวิ่งให้ประโยชน์ได้หลากหลายด้าน ทำให้ร่างกายแข็งแรงและยังช่วยทำให้ผู้ที่วิ่งรู้สึกผ่อนคลายไปกับบรรยากาศรอบข้างได้เป็นอย่างดี แต่ในยุคปัจจุบันมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการวิ่งให้มีความแปลกมากขึ้น ด้วยการจัดแข่งขันกีฬาวิ่งเเข่งส้นสูงที่สามารถสร้างความแปลกใหม่ให้กับทั้งผู้หญิงและผู้ชายได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว เพราะแค่เพียงการยืนบนส้นสูงกว่า 3 นิ้ว ยังทรงตัวแทบไม่ไหว แต่นี่คือการวิ่งที่จะต้องเกร็งทั้งช่วงเท้า, ขา และช่วงลำตัว เพื่อให้สามารถยืนหยัดได้โดยไม่ล้มและวิ่งได้ครบตามระยะทางที่ถูกกำหนดไว้ ซึ่งถือว่าเป็นกีฬาที่มีความเสี่ยงพอสมควร เพราะถ้าส้นสูงพลิกอาจทำให้ข้อเท้าหักและเอ็นฉีกได้เลยทีเดียว

วิ่งเเข่งส้นสูง ท้าทายความสามารถด้านการทรงตัว ไปพร้อมการได้เงินรางวัล

running-in-high-heels

การวิ่งเเข่งส้นสูง หรือ Running in High Heels เป็นอีกหนึ่งกีฬาสุดแปลกที่มีการแข่งขันในหลายประเทศทั่วโลก ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การแข่งขันในกลุ่มของผู้หญิงเท่านั้น แต่ยังกระจายออกไปทั้งในกลุ่มของผู้ชายและกลุ่มเพศทางเลือกในประเทศต่าง ๆ ซึ่งสร้างความสนุกให้กับผู้ที่ลงแข่งขันได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ในบางประเทศยังเพิ่มการแต่งกายที่ดูตลก , สวยงาม และเข้าธีมกับรองเท้าส้นสูง เพื่อทำให้บรรยากาศการแข่งขันมีความน่าสนใจมากขึ้นกว่าเดิม 

สำหรับจุดเริ่มต้นของกีฬาวิ่งเเข่งส้นสูงถือกำเนิดขึ้นในช่วงปี 2008 ที่รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยภายในเมืองบัฟฟาโลของนิวยอร์ก มีเจ้าของแบรนด์รองเท้าอย่าง ShoeFly คือ Sue Marfino ต้องการที่จะทำให้กระแสรองเท้าของตนเองเป็นที่หลงใหลของผู้ที่อยู่ในกลุ่มชนบทอย่าง Elmwood Village จึงได้มีการจัดวิ่งแข่งด้วยส้นสูง เพื่อหารายได้และมอบให้กับทางมูลนิธิสถาบันมะเร็งรังไข่ หรือ Ovarian Cancer National Alliance เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งรังไข่ที่มีสูงมากกว่า 20,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตสูงถึง 15,000 รายต่อปีอีกด้วย 

running-in-high-heels-

นอกจากนี้การวิ่งแข่งด้วยส้นสูง ยังเป็นอีกหนึ่งกระแสไวรัลเล็ก ๆ ในชุมชน ที่ทำให้คนหันมาสนใจรองเท้าของร้าน ShoeFly ไปในตัว เพราะภายในกติกากีฬาสุดแปลกนี้สามารถแต่งกายได้ทุกรูปแบบที่ต้องการ เพียงแต่มีกติกาสำคัญ คือ จะต้องวิ่งด้วยรองเท้าส้นสูงอย่างน้อย 3 นิ้วขึ้นไปเท่านั้น หลังจากการจัดแข่งขันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมได้ผู้ชนะภายในงาน ทำให้ร้านค้าและร้านอาหารที่เข้ามาเปิดบูธเพื่อขายของภายในงานวิ่งแข่ง รวมไปถึงร้าน ShoeFly เองต่างก็มีรายได้เพิ่มขึ้น จึงได้มีการนำส่วนหนึ่งของรายได้จากการจัดงานไปบริจาคให้แก่ทางโครงการวิจัย เพื่อทำการช่วยเหลือผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งรังไข่ต่อไป 

running-in-high-heels

ส่วนการแข่งขันครั้งล่าสุดของการวิ่งเเข่งส้นสูง คือ การแข่งขันเมื่อปี 2016 ซึ่งถือว่าเป็นครั้งที่ 8 และหลังจากนั้นก็ไม่ได้มีการจัดขึ้นภายในนิวยอร์กอีกเลย แต่กลายเป็นการกระจายไปสู่ประเทศอื่น ๆ ที่เมื่อได้เห็นกีฬาแปลก ๆ นี้แล้ว จึงได้นำไปวิ่งเพื่อการกุศลและวิ่งเป็นประเพณีกันไปทั่วโลก ดังเช่นที่ประเทศสเปนกลุ่มเพศทางเลือกอย่าง LGBT ได้มีการจัดงานวิ่งแข่งด้วยส้นสูงประจำปีที่กลายมาเป็นหนึ่งในประเพณีของการจัดงาน ที่จะต้องมีการแข่งขันวิ่งด้วยส้นสูงกว่า 15 เซติเมตร หรือประมาณ 5.9 นิ้ว ซึ่งถือว่าสูงมาก การแข่งขันจะเป็นการวิ่งภายในเมืองชูเอกาและไม่ได้จำกัดเพียงเฉพาะเพศทางเลือกอย่าง LGBT แต่ผู้หญิง, ผู้ชาย และเพศอื่น ๆ ก็สามารถเข้ามาร่วมได้ทั้งหมด โดยจะมีเงินรางวัลให้ฟลังจบงาน 409 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 13,000 บาทไทย แม้จะเป็นความสนุกและความท้าทายของใครหลาย ๆ คน แต่ก็ต้องยอมรับว่าความอันตรายก็ย่อมมีสูงด้วยเช่นกัน ซึ่งภายในงานนี้กว่าจะได้ผู้ชนะเลิศก็มีผู้วิ่งหลายรายรับบาดเจ็บกลับบ้านไปมากพอสมควร 

สำหรับในปี 2008 มีการจัดวิ่งเเข่งส้นสูงในอีกหนึ่งแห่งของโลก โดยผู้ที่ชนะเลิศภายในงาน คือ บิตนีย์ แม็กโกลน ในวัยเพียงแค่ 18 ปี ชาวเมืองเบรดวู้ดที่สามารถเอาชนะคู่แข่งและเข้าสู่เส้นชัยเป็นที่ 1 พร้อมการคว้าเงินรางวัลสูงกว่า 5,000 ดอลลาร์ออสเตรเลียหรือ 144,500 บาทไทย แต่การแข่งขันกีฬาแปลก ๆ ที่กล่าวมานี้เป็นของประเทศออสเตรเลีย ในนครซิดนีย์ ที่มีการจัดแข่งขันวิ่งด้วยส้นสูงขึ้น เพราะต้องการทำลายสถิติโลกการวิ่งหมู่และวิ่งเดี่ยวแบบส้นสูงที่เป็นสถิติใหม่ ดังนั้นจึงจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าการแข่งขันวิ่งส้นสูงมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากเลยทีเดียว

running-in-high-heels

สำหรับกฎและกติกาของการวิ่งเเข่งส้นสูงนั้นถือว่าไม่ยุ่งยาก เข้าใจง่าย และค่อนข้างตายตัว จะมีความแตกต่างกันออกไปตามแต่ละผู้ที่จัดงานเท่านั้น แต่โดยหลักแล้วจะเน้นที่การสวมใส่เฉพาะรองเท้าส้นสูง ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ใด, สีไหน หรือรูปแบบส้นจะเป็นอย่างไรก็ตาม แต่จะต้องมีความสูงของส้นรองเท้าตั้งแต่ 3 นิ้วขึ้นไป และในบางการแข่งขันอาจจะให้สูงสุดถึง 5 นิ้ว โดยระยะทางในการวิ่งจะอยู่ที่ 0.5 กิโลเมตร หรือ 500 เมตรเท่านั้น แต่ทั้งนี้ผู้ที่เข้าแข่งขันจะต้องเซฟตัวเองให้ได้มากที่สุด ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะต้องเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บสาหัสจากการสะดุดหรือการทรงตัวไม่ได้ ซึ่งถ้าคุณสนใจจะไปแข่งขันกีฬาสุดบ้านี้ก็อาจจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมและเตรียมใจต่ออาการบาดเจ็บแบบไม่คาดคิดไว้รออีกด้วย 

 

 

จีคลับ