ย้อนรอยตำนานแข้งปืน เธียร์รี อองรี ครบรอบ 7 ปี กับการแขวนสตั๊ด
หากจะกล่าวถึงทีมปืนใหญ่ในตำนาน แน่นอนว่าต้องมีรายชื่อของ เธียร์รี อองรี(Thierry Henry) ติดโผอยู่อย่างแน่นอน ซึ่งเจ้าตัวถือว่าเป็นนักฟุตบอลอีกหนึ่งคนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในการเล่นอาชีพทั้งทีมชาติและสโมสร โดยเมื่อ 7 ปี ก่อนในวันที่ 16 ธันวาคม 2014 เจ้าตัวได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะตัดสินใจอำลาวงการลูกหนังด้วยวัย 37 ปี แน่นอนว่าทุกวันนี้เจ้าตัวยังเป็นที่จดจำในฐานะของแข้งทอง อาร์เซน่อล(Arsenal) ตลอดกาล และในปัจจุบันยังไม่มีใครมาแทนที่เขาได้
ผลงานที่น่าจดจำในเส้นทางฟุตบอลของ เธียร์รี อองรี
เธียร์รี อองรี(Thierry Henry) มีโอกาสได้ลงเล่นให้กับสโมสรระดับโลกมากมายทั้ง ยูเวนตุส(Juventus), อาร์เซน่อล(Arsenal) ตลอดจน บาร์เซโลน่า(Barcelona) สำหรับผลงานที่โดดเด่นในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ อองรีมีส่วนช่วยในการพาปืนใหญ่คว้าแชมป์ถึง 2 ฤดูกาล ในซีซั่น 2001/2022 และ 2003/2004 ซึ่งผลงานที่น่าจดจำของเขาที่แฟน อาร์เซน่อล(Arsenal) จำไม่ลืมเลยคือการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2003/2004 ด้วยสถิติไร้พ่าย และยิงถล่มทลายกับการเล่นให้ปืนใหญ่ไปถึง 174 ประตู ซึ่งนั่นเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ประสบความสำเร็จและเป็นยุคทองของทีมในช่วงนั้นเลยก็ว่าได้ ก่อนที่จะย้ายมาโลดเล่นในถิ่นกระทิงดุกับทัพต่างดาว ซึ่งเขาก็ประสบความสำเร็จเช่นกันกับการพาทีมคว้าแชมป์ลาลีก้า สเปน ถึง 2 ฤดูกาล ในช่วง 2008/2009 และ 2009/2010 โดยอองรีมีโอกาสลงสนามด้วยกัน 80 เกม ซึ่งเขาก็ไม่ทำให้แฟน ๆ ผิดหวังด้วยการซัดประตูไป 35 ลูก ในนามทีมชาติฝรั่งเศส เธียร์รี อองรี(Thierry Henry) ยังสามารถทำผลงานได้ดีไม่แพ้สโมสร ด้วยการพาตราไก่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในปี 1998 และแชมป์ยูโรในปี 2000
เส้นทางผู้ฝึกสอนของ เธียร์รี อองรี ในปัจจุบัน
แม้จะแขวนสตั๊ดไปนานกว่า 7 ปี แต่เจ้าตัวก็ยังคงวนเวียนอยู่ในวงการฟุตบอล ให้แฟน ๆ ได้หายคิดถึงกันอยู่บ้าง กับการผันตัวมาเป็นกุนซืออย่างเต็มตัว ซึ่งทีมแรกที่ เธียร์รี อองรี(Thierry Henry) ได้มีโอกาสไปคุมนั้นคือทีม โมนาโก(Monaco) ในลีกเอิงฝรั่งเศสแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จสักเท่าไหร่นัก ทำได้เพียงพาสโมสรอยู่ในอันดับที่ 17 ของตาราง ซึ่งเกือบตกชั้น ในฤดูกาลต่อมาอองรีมีโอกาสย้ายไปคุมทีมลีกแคนาดากับสโมสร มอนทรีออล(CF Montréal) ในปี2019-2021 ก่อนที่ต่อมาในปี 2021 เช่นเดียวกันเขาจะตัดสินใจมาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมให้กับทีมชาติเบลเยียม โดยผลงานล่าสุดเจ้าตัวได้มีส่วนร่วมในการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 ด้วยการพาเบลเยียมกับชัย 3 เกมรวด คว้าแชมป์กลุ่ม B ก่อนที่จะตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย ด้วยการปราชัยให้กับทีมชาติอิตาลี ซึ่งแม้เวลาจะผ่านมานานเท่าไหร่ เขาก็ยังคงกลับมาชมเกมการแข่งขันที่ อาร์เซน่อล(Arsenal) อยู่เสมอ สิ่งนี้เองทำให้แฟน ๆ ประทับใจกับการเป็นตำนานที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ไม่เคยลืม