ความเป็นมาและประวัติน่ารู้ของกีฬาบิลเลียด

หลักฐานเกี่ยวกับ ประวัติกีฬาบิลเลียด ชิ้นสำคัญที่ปรากฏคือภาพวาดการละเล่นของเหล่าขุนนางในประเทศทางยุโรป สมัยศตวรรษที่ 15 ซึ่งมีลักษณะคล้ายการเล่นบิลเลียด ต่อมาในช่วง ศตวรรษที่ 16 ก็เริ่มพัฒนาวิธีการเล่นและมีชื่อว่า อิงลิช บิลเลียด (English Billiards) ซึ่งนิยมเล่นกันในกลุ่มทหารอังกฤษที่ไปประจำอยู่ในประเทศอินเดีย ใช้ลูกบิลเลียดทำจากงาช้าง มีกติกาหลักๆ คือเป็นกีฬาที่เล่นกันสำหรับสองคน ภายหลังจึงได้มีการคิดค้นกีฬาพูลหรือเรียกว่า Life Pool และ Pyramid Pool ที่สามารถเพิ่มจำนวนผู้เล่นได้มากขึ้น แล้วก็มีการนำมาประยุกต์จนกลายเป็นกีฬาสนุกเกอร์ ตั้งแต่ปีค.ศ.1882 อีกทั้งได้เผยแพร่จนเป็นกีฬายอดนิยมในหลายๆ ประเทศทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีรายการแข่งขันกีฬาบิลเลียดระดับโลกและระดับประเทศอย่างสม่ำเสมอ

วิธีเล่น กติกา และประโยชน์ของกีฬาบิลเลียด

ภายใต้กติกาและข้อกำหนดของสมาคมบิลเลียดและสนุกเกอร์โลก (WPBSA) ในการเล่นบิลเลียดจะต้องมีอุปกรณ์ประกอบด้วยโต๊ะบิลเลียด ขนาดมาตรฐานพร้อมหลุม, ลูกบิลเลียด และไม้คิวสำหรับแทงลูกให้ลงหลุม สำหรับวิธีการเล่นบิลเลียด ค่อนข้างมีรายละเอียดที่ซับซ้อนจึงจะขออธิบายกติกาการเล่นบิลเลียดในภาพรวมนั่นคือ ผู้เล่น 2 ฝ่ายจะต้องแข่งกันใช้ความสามารถด้านความแม่นยำในการใช้ไม้คิวแทงลูกบิลเลียดบนโต๊ะด้วยการผลัดกันแทง ซึ่งสีของลูกบิลเลียตทั้ง 3 ลูกที่แตกแต่ง ได้แก่ สีขาว สีแดง สีเหลือง การทำคะแนนก็มีหลายรูปแบบ เช่น แทงลูกสีขาวให้กระทบกับสองลูกที่เหลือ หรือเรียกว่าแคนนอน จะได้ 2 แต้ม หรือตบลูกสีเหลืองลงหลุมก็ได้ 2 แต้ม นอกจากนี้ยังมีกติกาการเสียฟาวล์ โดยคะแนนที่ผู้เล่นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแทงเสียจากการทำฟาล์ว จะนำไปบวกให้ผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม ใครสามารพทำคะแนนรวมในเกมได้มากที่สุดจะเป็นผู้ชนะในแมตซ์

ประโยชน์ของกีฬาบิลเลียด ความสนุกของบิลเลียดก็คือการได้ฝึกการวางแผนและชิงไหวชิงพริบ ซึ่งมีประโยชน์ทั้งเรื่องของการใช้สมาธิและการฝึกความแม่นยำของทุกส่วนในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นแขน มือ ขาและสายตา อีกทั้งการเล่นกีฬาบิลเลียด ก็ถือได้ว่ามีรายละเอียดการเล่นค่อนข้างหลากหลาย ซับซ้อนตั้งแต่พื้นฐาน ผู้เล่นที่ฝึกเล่นบ่อยๆ ก็จะได้ประโยชน์จากการใช้สมองและความจำเพื่อพัฒนาความสามารถตนเองอยู่เสมอ