ประวัติความเป็นมาของกีฬายิงปืน สนุก ท้าทาย พร้อมฝึกสมาธิได้เยี่ยม !

ประวัติความเป็นมาของกีฬายิงปืน สนุก ท้าทาย พร้อมฝึกสมาธิได้เยี่ยม !

 

การยิงปืนอาจจะถูกมองว่าเป็นเพียงแค่การใช้ในบางกลุ่มอาชีพเท่านั้น เช่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ, ทหาร หรือผู้ที่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ ด้านการป้องกันชีวิตผู้คน รวมไปถึงนายพรานและผู้ที่ต้องล่าสัตว์ แต่ในปัจจุบันการยิงปืนเป็นหนึ่งในกีฬาที่สามารถสร้างความแข็งแรงทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ และการกระตุ้นประสาทสัมผัสในด้านการมองเห็น การรับรู้ และการได้ยินที่มีความแม่นยำ ดังนั้นจึงกลายมาเป็นหนึ่งในกีฬาที่ได้รับความนิยมและถูกบรรจุให้เข้าสู่การแข่งขันใหญ่ทั้งในระดับประเทศและระดับโลกเลยทีเดียว

 

shooting-history

 

การยิงปืนอาจจะถูกมองว่าเป็นเพียงแค่การใช้ในบางกลุ่มอาชีพเท่านั้น เช่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ, ทหาร หรือผู้ที่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ ด้านการป้องกันชีวิตผู้คน รวมไปถึงนายพรานและผู้ที่ต้องล่าสัตว์ แต่ในปัจจุบันการยิงปืนเป็นหนึ่งในกีฬาที่สามารถสร้างความแข็งแรงทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ และการกระตุ้นประสาทสัมผัสในด้านการมองเห็น การรับรู้ และการได้ยินที่มีความแม่นยำ ดังนั้นจึงกลายมาเป็นหนึ่งในกีฬาที่ได้รับความนิยมและถูกบรรจุให้เข้าสู่การแข่งขันใหญ่ทั้งในระดับประเทศและระดับโลกเลยทีเดียว

 

ประวัติความเป็นมาของการยิงปืน

ประวัติยิงปืน คือ ถือกำเนิดขึ้นมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่มนุษย์เริ่มคิดค้นอาวุธเพื่อการล่าสัตว์และการป้องกันตัว จากนั้นในช่วงปี ค.ศ. 1896 กีฬายิงปืน ได้ถูกบรรจุเข้าสู่การเป็นกีฬาโอลิมปิกครั้งแรกที่กรุงเอเธนส์และได้รับการบรรจุให้เป็นกีฬาประจำของโอลิมปิกมาโดยตลอด แต่จะมีการเว้นว่างไว้ 2 ปีด้วยกัน คือ ช่วงปี 1904 และช่วงปี 1928 แต่เมื่อมาถึงปี 1948 การแข่งยิงปืน ทั้งแบบสั้นและแบบยาวกลับถูกตัดออกจากการแข่งขันไปทั้งหมด สุดท้ายก็กลับเข้ามาเป็นหนึ่งในกีฬาของโอลิมปิกแต่จะมาในรูปแบบของอีเว้นท์โอลิมปิกหรือโอลิมปิกฤดูร้อนเท่านั้น 

สำหรับการแข่งขันจะมีด้วยกันหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นปืนสั้นหรือปืนยาว แต่สำหรับสหพันธ์กีฬายิงปืนนานาชาตินั้นจะเป็นผู้ที่ควบคุมและดูแลนักกีฬาระหว่างประเทศและเป็นหนึ่งในสมาชิกของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล จึงเป็นผู้รับผิดชอบด้านกีฬายิงปืนในทุกรูปแบบ โดยจะมีสมาชิกของสหพันธ์ 154 ประเทศด้วยกันและสำนักงานใหญ่ของสหพันธ์ยิงปืนนานาชาติจะอยู่ที่ประเทศเยอรมนี

แต่ในขณะเดียวกัน ก็ได้มีการตั้งสมาพันธ์ยิงปืนรณยุทธนานาชาติหรือที่เรียกว่า IPSC ที่จะมีความแตกต่างไปจากกีฬายิงปืนทั่วไป เพราะมาในรูปแบบของรณยุทธที่ผสมผสานการป้องกันตัวไว้ในหนึ่งเดียว ด้วยมุมมองและความคิดที่แตกต่างกัน จึงทำให้ทางสมาคมยิงปืนรณยุทธกับทางสหพันธ์กีฬานานาชาติแตกออกจากกันอย่างสิ้นเชิงและไม่เกี่ยวข้องใด ๆ กับกีฬาโอลิมปิก เพราะ IPSC คือ การยิงปืนที่มีความใกล้เคียงกับการต่อสู้ ไม่ใช่เพียงแค่การยิงเพื่อหวังผลชนะแล้วรับรางวัลเท่านั้น แต่จะมาในรูปแบบของการยิงที่ใช้ได้ทั้งการป้องกันตัว การต่อสู้ และการเข้าสู่สนามรบจริงนั่นเอง สำหรับการแข่งขันที่สหพันธ์กีฬายิงปืนนานาชาติดูแลอยู่นั้น จะมีการแข่งขันของโอลิมปิก แต่จะมาในรูปแบบของอีเว้นท์โอลิมปิก, การแข่งขัน ISSF ยิงปืนชิงแชมป์โลกและการแข่งขันแบบลูกซอง, การแข่งขัน ISSF เวิลด์คัพ และการแข่งยิงปืนเพื่อชิงแชมป์ในระดับภูมิภาคของยุโรป

 

ประเภทของการแข่งขันยิงปืน

กีฬายิงปืนสำหรับผู้ที่สนใจและต้องการที่จะฝึกฝน เพื่อนำไปสู่การแข่งขันหรือการเป็นนักกีฬามืออาชีพ ควรฝึกการยิงปืนที่ได้รับความนิยมในการนำมาแข่งยิงปืนที่จะมีทั้งหมด 6 ประเภท ดังนี้

 

1.ปืนยาวท่านอน

การแข่งยิงปืนยาวท่านอน คือ การใช้ปืนในขนาด .22 ที่ไม่ว่าจะเป็นชนิดใดหรือยี่ห้อใดก็ได้ แต่จะต้องไม่ใช้อุปกรณ์ใด ๆ ที่เกี่ยวกับการถ่วงปืน ไม่มีการตกแต่งโครงปืนและน้ำหนักจะต้องไม่เกินไปกว่า 3 กิโลกรัม อุปกรณ์ช่วยยิงทุกชนิดห้ามใช้ด้วยเช่นกัน ในขณะที่แข่งขันต้องสวมใส่เฉพาะเสื้อแขนสั้นที่เป็นเสื้อยืดหรือเสื้อเชิ้ตเท่านั้น จะมีระยะในการยิงประมาณ 50 เมตร เป้ายิงจะมีทั้งหมด 7 แผ่น ในระยะ 25 เมตร จะให้ยิงทดสอบก่อนด้วยท่าอิสระประมาณ 5 นัดด้วยเวลา 5 นาทีต่อ 1 เป้าและมีการยิงบันทึกผล ส่วนท่าการยิงนั้นจะต้องเป็นท่านอนยิงแบบนอนคว่ำ

 

2.ปืนสั้นยิงช้า

กีฬายิงปืนสั้นแบบยิงช้าหรือที่เรียกว่า Free Pistol คือการใช้ปืนสั้นที่ยิงเป้าไกลในระยะ 50 เมตร จะใช้กระสุนทั้งหมดที่ 60 นัด ปืนจะเป็นขนาด .22 และจะมีแว่นที่ใช้เฉพาะในการช่วยเล็งเป้ามาเป็นตัวช่วยของการแข่งขัน ใช้เวลาทั้งหมด 2 ชั่วโมง จึงถูกเรียกว่าการแข่งปืนสั้นแบบยิงช้า เพราะใช้เวลาในการตัดสินใจและยิงเพื่อเข้าเป้าถึง 120 นาที จึงสามารถยิงได้เรื่อย ๆ แบบไม่ต้องกังวลมากนัก

 

3.เป้าบินแทร็ป

การแข่งยิงปืนแบบเป้าบินแทร็ปเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1920 ที่ประเทศอังกฤษ โดยเป็นการยิงเพื่อล่านกโดยเฉพาะ เมื่อกลายมาเป็นกีฬาจึงเปลี่ยนจากนกให้เป็นเป้าที่บินในระยะของนกบินและเมื่อกระทบกับลูกปืนแล้วจะแตกออก ซึ่งจะมีการแข่ง 2 รูปแบบ คือ การแข่งเป็นกีฬาทั่วไปกับการแข่งแบบยิงรณยุทธ ที่จะต้องยิงเป้าและแข่งกับเวลา จึงต้องใช้ทักษะความแม่นยำและความชำนาญที่ค่อนข้างมากเลยทีเดียว ส่วนปืนนั้นจะใช้เป็นปืนยาวและจะมีเป้าเป็นแท่นออกมาทั้งหมด 5 แผ่น โดยจะไม่มีการบอกให้ผู้เข้าแข่งขันรู้ว่าเป้าจะบินมาจากทิศทางใดบ้าง

 

4.ปืนยาวแบบ 3 ท่า

การแข่งยิงปืนยาว 3 ท่า จะใช้ปืนยาวในขนาด .22 แบบพานท้าย ศูนย์เปิด ในขณะที่ยิงจะต้องไม่พาดหรือพิงกับส่วนใดของวัตถุ, ห้ามใช้อุปกรณ์ช่วยยิง และห้ามใช้อุปกรณ์รองรับร่างกาย จะมีเป้ายิงอยู่ในระยะ 50 เมตร จำนวนทั้งหมด 4 แผ่นและมีแผ่นทดสอบ 1 แผ่น บันทึกผลด้วยกัน 3 ท่า คือ ท่านั่ง, ท่านอน และท่ายืน โดยการยิงท่าละ 10 นัด ซึ่งการแข่งขันประเภทนี้ต้องใช้ทักษะความเร็ว การเคลื่อนไหว และการตัดสินใจที่แม่นยำด้วยเช่นกัน

 

5.เป้าแบบเคลื่อนที่

การยิงปืนแบบเป้าเคลื่อนที่ คือ การใช้เป้าที่วิ่งไปมาทั้งด้านซ้ายและด้านขวาสลับกัน โดยจำลองมาจากการวิ่งของสัตว์ ส่วนใหญ่แล้วจะใช้ได้ทั้งปืนยาวและปืนสั้น เป้ายิงจะมีลักษณะเป็นรูปวงกลมซ้อนกันและจะมีคะแนนให้ตามจุดต่าง ๆ ซึ่งการยิงแบบเป้าเคลื่อนที่จำเป็นต้องใช้ทักษะทางสายตาและการวิเคราะห์ที่ค่อนข้างแม่นยำด้วย

 

6.เป้าบินสกีต

กีฬายิงปืนแบบเป้าบินสกีตจะเป็นการแข่งขันที่เก่าแก่ที่สุด โดยเป้าจะถูกปล่อยออกจากแท่นที่จะอยู่ทั้งด้านซ้ายและด้านขวาของสนาม ระยะการยิงจะใกล้ที่สุดในบรรดาเป้าบินทั้งหมด สำหรับนักกีฬาสามารถถือปืนเตรียมความพร้อมและประทับยืนรอได้เลย เมื่อเป้าถูกปล่อยออกมาก็สามารถยิงได้ทันที

สำหรับผู้ที่สนใจยิงปืนและต้องการพัฒนาตัวเองเป็นนักกีฬา ภายในประเทศไทยมีสนามสำหรับการยิงปืนและมีที่ฝึกฝน พร้อมไปด้วยผู้ฝึกสอนหลายแห่ง ซึ่งกีฬาประเภทนี้จะช่วยเพิ่มทักษะทางความคิด การใช้ประสาทสัมผัสด้านต่าง ๆ อย่างแม่นยำและทำให้คุณร่างกายแข็งแรงอีกด้วย