อาร์เซนอล จ่าฝูง พรีเมียร์ลีก ที่กำลังร้อนแรงอยู่ในขณะนี้ ได้ตกลงเซ็นสัญญาดึงตัว เลอันโดร ทรอสซาร์ด จากไบรท์ตันมาร่วมทีม ด้วยราคาตัว 27 ล้านปอนด์
อาร์เซนอล หวังซิวแชมป์เสริมตำแหน่งช่วงมกราคม
อาร์เซนอลหลังโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าทึ่ง จนมีโอกาสคว้า แชมป์พรีเมียร์ลีก ในรอบ 20 ปี ได้ตัดสินใจเสริมผู้เล่นแดนหน้า ช่วง ตลาดซื้อขายนักเตะ มกราคม ด้วยการคว้า เลอันโดร ทรอสซาร์ด กองหน้าสารพัดประโยชน์ที่สามารถเล่นได้หลายตำแหน่งมาเป็นส่วนหนึ่งของทีม ซึ่งหลังจากผ่านมาครึ่งซีซั่น พวกเขายังคงรั้งตำแหน่งจ่าฝูงอยู่กับคะแนน 50 แต้ม ชนะ 16 แพ้ 1 เสมอ 2 ทิ้งห่างเรือใบสีฟ้า 5 แต้ม และแข่งน้อยกว่า 1 เกม สำหรับทรอสซาร์ด ทางสโมสรได้ทุ่มงบราว ๆ 27 ล้านปอนด์ และเพิ่มค่าเหนื่อยให้เป็น 90,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ โดยเป็นรายได้ที่มากกว่าตอนค้าแข้งกับไบรท์ตันถึง 47,500 ปอนด์
ทรอสซาร์ด ประเดิมสนามให้อาร์เซนอล ในเกมปีศาจแดง
การแข่งขันบิ๊กแมตช์ระหว่างอาร์เซนอล และ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่ผ่านมา เป็นทางฝั่งจ่าฝูงที่เล่นได้เหนือชั้นกว่า เอาชนะไปอย่างเฉียดฉิว 3-2 โดยในเกมดังกล่าว เลอันโดร ทรอสซาร์ด ได้ลงประเดิมสนามให้ปืนใหญ่ในนาทีที่ 82 แทน กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ปีกซ้ายตัวเก่งของทีมที่เล่นไม่ออก ซึ่งเจ้าตัวก็โชว์ความสามารถได้อย่างน่าประทับใจและมีส่วนร่วมในการทำประตูที่ 3 ให้เจ้าบ้านเอาชนะไปได้ จนโค้ชอย่าง มิเกล อาร์เตต้า ถึงกับต้องออกโรงชื่นชมผู้เล่นผ่านสื่อว่า “นี่แหละคือสิ่งที่ผมชอบในตัวเขา ผมเห็นนักเตะแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ และเขาสงบมากในลูกที่มีส่วนในการทำประตู ทรอสซาร์ดเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ให้กับทีมได้ดี และเขาทำให้เราชนะได้” โดยทรอสซาร์ดเป็น นักเตะอาร์เซลน่อล ที่สวมใส่หมายเลข 19 ในฤดูกาลนี้
ทรอสซาร์ด ประทับใจหลังเกมอาร์เซนอล ชนะแมนยู
ทรอสซาร์ด ได้ออกมาพูดถึงอาร์เซนอล หลังจบการแข่งขันที่พวกเขาเก็บชัยชนะเป็นเกมที่ 16 ของซีซั่นได้ โดยเจ้าตัวกล่าวว่า “มันเป็นบรรยากาศที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ และผมตื่นเต้นที่ได้เริ่มต้นใหม่กับเดอะกันเนอร์ นี่คือสโมสรที่ใหญ่และผมพร้อมที่จะแสดงความสามารถให้แฟน ๆ ได้เห็นว่าตัวเองทำอะไรได้บ้าง” พร้อมกล่าวต่อว่า “ผมพยายามทำงานให้หนัก เพื่อช่วยให้ทีมบรรลุเป้าหมาย ที่นี่เต็มไปด้วยผู้เล่นและผู้จัดการทีมที่ยอดเยี่ยม ผมหวังว่าจะได้ร่วมทำสิ่งที่มหัศจรรย์กับพวกเขา” แน่นอนว่าทัพปืนใหญ่เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะ แชมป์ไร้พ่าย ในซีซั่น 2003/04 ด้วยการคุมสโมสรมาอย่างยาวนานของ อาร์เซน เวนเกอร์ ซึ่งหลังจากนั้นทีมก็ไม่เคยมีโอกาสกลับไปเป็นแชมป์อีกเลย จนมาสู่การรับตำแหน่งของอาร์เตต้า ที่กำลังจะพาทีมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ และก็ต้องมาลุ้นกันว่าอีกครึ่งทางที่เหลือพวกเขา จะสามารถไปถึงฝั่งฝันในรอบหลายปีหรือไม่
อ่านข่าวกีฬาอื่น ๆ >> เอเลียด คิปโชเก้ อีกหนึ่งนักวิ่งที่ดีที่สุดในโลก