นิวคาสเซิล กำลังให้ความสนใจอย่างหนักไปที่ คีแรน เทียร์นีย์ จากอาร์เซนอล หลังเจ้าตัวได้รับโอกาสลงเล่นไม่มากเท่าที่ควร ในการเข้ามาแทนที่ของซินเชนโก้ในฤดูกาลล่าสุด
นิวคาสเซิล พร้อมเสนอ 30 ล้านปอนด์ ดึงตัวเทียร์นีย์
ฤดูกาลที่โดดเด่นกับโอกาสคว้าตั๋วไปเล่น UCL ของนิวคาสเซิล ในซีซั่นนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าพวกเขาได้กลายเป็น ทีมบอลพรีเมียร์ลีก ที่มีพัฒนาการอย่างก้าวกระโดด หลังจากการเทคโอเวอร์ของเจ้าของคนใหม่ไม่นาน ซึ่งในปัจจุบันสโมสรสามารถก้าวขึ้นไปติด TOP 3 ของ ตารางพรีเมียร์ลีก ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ และด้วยความต้องการที่จะเสริมแกร่งหากได้ไปเล่นแชมป์เปียนส์ลีก เอ็ดดี้ ฮาว กุนซือของทีมก็กำลังมองหาแบ็คซ้ายเสริมปราการคนใหม่ ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก คีแรน เทียร์นีย์ ที่เต็มไปด้วยขุมกำลังวัยหนุ่ม โดยในซีซั่นนี้ต้องยอมรับว่าเจ้าตัวไม่ได้ถูกอาร์เตต้าใช้งานเท่าไหร่นัก หลังจากการเข้ามาเล่นในตำแหน่งเดียวกันของซินเชนโก้ และนั่นอาจจะเป็นอีกแรงจูงใจที่ทำให้สาลิกาดงมีโอกาสคว้าตัวเทียร์นีย์ในช่วงซัมเมอร์สูง
ความเป็นไปได้ที่นิวคาสเซิล จะดึง เทียร์นีย์ ร่วมทีม
เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลยสำหรับนิวคาสเซิล ในการยื่นข้อเสนอให้เจ้าชายหิมะมาร่วมสโมสรในซีซั่นนี้ เนื่องด้วยปัจจัยทางการเงิน ซึ่งในปัจจุบันนั้นเทียร์นีย์เป็น นักฟุตบอลอาร์เซนอล ที่มีค่าเหนื่อยมากที่สุดเป็นอันดับ 7 ของทีม 110,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ในขณะที่ค่าเหนื่อยของผู้เล่นสาลิกาดงที่มากที่สุดนั้น ตกเป็นของ อัลลัน แซงต์-มักซิแม็ง ที่มีรายรับน้อยกว่าเทียร์นีย์ 83,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ โดยหากเป็นเช่นนั้น นิวคาสเซิลก็อาจจะต้องจำเป็นจ่ายค่าเหนื่อยให้มากกว่าที่ต้นสังกัดเดิมให้เขาหรือไม่ หรือในอีกประการหนึ่งหากเจตนารมณ์ของเทียร์นีย์ต้องการมีบทบาทลงสนามมากขึ้น พวกเขาก็อาจจะได้ในสิ่งที่ต้องการ สำหรับฤดูกาลนี้ของเทียร์นีย์มีโอกาสออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเพียง 5 เกม ทำผลงานไป 1 ประตู 2 แอสซิสต์
แอสตัน วิลล่า เตรียมปาดหน้านิวคาสเซิล คว้าตัวเทียร์นีย์
นิวคาสเซิลยังคงต้องเผชิญกับทีมคู่แข่งใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในช่วง ตลาดซื้อขายนักเตะ ที่จะถึงนี้ หลังมีการเผยว่า แอสตัน วิลล่า ภายใต้การคุมทีมของอูไน ก็กำลังให้ความสนใจกับเทียร์นีย์เช่นกัน แต่หากเทียบกับความเป็นจริงแล้ว สาลิกาดงเป็นสโมสรที่มีโอกาสมากกว่าในการไปเล่นแชมป์เปียนส์ลีกฤดูกาลหน้า ในขณะที่วิลล่าอยู่ในอันดับ 8 ซึ่งท้ายที่สุดแล้วทางเลือกของเทียร์นีย์หากเขาต้องการจะอยู่กับต้นสังกัดเดิมก็มีโอกาสที่จะได้ไป UCL ครั้งแรกในอาชีพ ในขณะที่หากมาค้าแข้งกับนิวคาสเซิล เขาก็มีโอกาสเช่นกัน และอาจจะมีบทบาทลงสนามมากกว่าด้วย