ในบรรดาเกมกีฬาที่ผู้เล่นต้องปะทะร่างกายกันทั้งหมด รักบี้ฟุตบอลคือหนึ่งประเภทกีฬาที่จะต้องติดอันดับต้นๆ ของความโหด ดุดัน และอาจข้ามเส้นไปถึงความป่าเถื่อนได้เลยในบางเกม ใครที่เคยได้ไปสัมผัสบรรยากาศการแข่งขันสดๆ ในสนามมาแล้วคงเข้าใจกันดี บางคนหูแตก ขาร้าว กระดูกหลุดนี่ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา นักกีฬาที่ชีวิตเปลี่ยนเพราะบาดเจ็บจากรักบี้ก็มีให้เห็นมาแล้ว จนอดสงสัยไม่ได้ว่าประโยชน์ของกีฬารักบี้อยู่ที่ตรงไหน แต่ก่อนที่จะไปประเด็นอื่นๆ เราต้องมาเคลียร์คำถามคาใจของหลายคนกันก่อน รักบี้คืออะไร และ รักบี้ฟุตบอล คืออะไร อย่าพยายามไปแยกแยะให้เสียเวลา เพราะทั้งคู่ก็คือกีฬาชนิดเดียวกัน
รักบี้ฟุตบอล คืออะไร ทำไมถึงเริ่มต้นมาจากการแหกกฎ
ประวัติความเป็นมาของกีฬารักบี้นี้น่าสนใจมาก แล้วก็ทำให้เข้าใจมากขึ้นด้วยว่าทำไมชื่อเต็มจึงเป็น “รักบี้ฟุตบอล” นั่นเพราะเหตุเกิดจากการแข่งขันฟุตบอลโรงเรียนในประเทศอังกฤษ ระหว่างที่การแข่งขันดำเนินไป และผู้เล่นส่วนใหญ่ก็เตะลูกหนังไปมาตามกติกาพื้นฐานของฟุตบอล อยู่ๆ ดันมีผู้เล่นคนหนึ่งที่ชื่อวิลเลียม เว็บบ์ เอลลิส ซึ่งไม่ได้เป็นผู้รักษาประตู ใช้มืออุ้มลูกฟุตบอลแล้ววิ่งหลบผู้เล่นคนอื่นไปยังฝั่งตรงข้ามแบบหน้าตาเฉย
ไม่มีใครรู้ว่าเหตุผลที่แท้จริงคืออะไร แต่การกระทำนี้เป็นที่ฮือฮาในกลุ่มเพื่อนนักเรียนอย่างมาก กระทั่งมีคนนำรูปแบบการเล่นที่แสนพิลึกนี้ไปต่อยอดกลายเป็นกีฬาใหม่ที่ชื่อว่า รักบี้ฟุตบอล ทีนี้เรามาขยายความกันอีกหน่อยว่า รักบี้ฟุตบอล คืออะไร นี่เป็นเกมกีฬาที่มีเพียงเป้าหมายเดียว คือทำยังไงก็ได้ให้สามารถนำลูกรักบี้ไปถึงประตูของฝ่ายตรงข้าม พอเงื่อนไขเป็นแบบนี้จึงทำให้เกมนี้กลายเป็นกิจกรรมของคนบ้าพลังโดยแท้ จะหลบหรือจะชนก็ไม่เกี่ยง
กติการักบี้และความน่าสนใจอื่นๆ ภายในเกมการแข่งขัน
ด้วยภาพรวมการแข่งขันที่ชวนให้คนนอกวงการเกิดข้อสงสัยว่ารักบี้ฟุตบอล คืออะไร ทำไมถึงเน้นแค่ความดุดันและบ้าพลัง ยังชวนให้สงสัยต่อไปอีกว่ากติการักบี้ที่แท้จริงมีรายละเอียดยังไงกันแน่ มีกฎเกณฑ์หรือแข่งขันแบบฟรีสไตล์ เดี๋ยวเรามาเจาะลึกประเด็นนี้ไปพร้อมกัน
รูปแบบการแข่งขันตามกติการักบี้แบบสากล
ถึงจะเกริ่นไปคร่าวๆ ข้างต้นบ้างแล้วว่ารักบี้คืออะไร แต่ก็เชื่อว่าคนที่ยังไม่เคยดูกีฬาชนิดนี้อาจยังนึกภาพไม่ออก ไม่รู้ว่ารักบี้เล่นกี่คน ไม่รู้ว่าแต่ละคนมีหน้าที่อะไร ขอแนะนำให้เริ่มจากทำความเข้าใจก่อนว่ากีฬารักบี้จะมีผู้เล่นสูงสุดฝั่งละ 15 คน ทุกคนมีตำแหน่งและหน้าที่ของตัวเอง ซึ่งคัดเลือกจากรูปร่างและทักษะ ใครที่มีรูปร่างใหญ่มักถูกจัดเป็นตัวชนหรือตัวแทงก์ บางจังหวะเป็นกองหน้าพาทีมบุก บางจังหวะคอยตั้งรับ ใครมีรูปร่างปราดเปรียวและวิ่งได้เร็วก็จะถูกจัดไปเป็นหน่วยทะลวง บางคนแทบไม่ต้องวิ่งเลยตลอดทั้งเกม แต่มีไหวพริบดี อ่านเกมข่าว และทำหน้าที่แค่เข้าชาร์จในจังหวะวิกฤติ ซึ่งวิธีการจัดคนในสนามก็ไม่ได้มีกฎเกณฑ์อะไร และไม่ว่ารักบี้เล่นกี่คนในเกมนั้น ก็ต้องบริหารสมาชิกในทีมให้สอดคล้องกับขนาดของสนามด้วย
การส่งลูกรักบี้ภายในเกม ส่งแบบไหนไม่ผิดกติกา
รู้หรือไม่ว่าความเร้าใจอีกอย่างหนึ่งของรักบี้คืออะไร มันคือวิธีการส่งลูกให้เพื่อนในทีม ผู้เล่นสามารถส่งลูกได้ 2 แบบ แบบแรกคือส่งด้วยมือ จะเป็นการส่งต่อให้ถึงมืออีกคนหนึ่งก็ได้ หรือจะเป็นการโยนบอลออกไปจากมือก็ได้ แต่ต้องโยนไปด้านข้างหรือไปด้านหลังเท่านั้น หากบอลพุ่งไปข้างหน้าจะฟาล์วทันที ทำให้ผู้เล่นต้องวิ่งพยายามวิ่งไปข้างหน้าให้ได้มากที่สุด อีกแบบหนึ่งคือการเตะซึ่งจะเตะไปทางไหนก็ได้ แต่ถ้าคิดว่าจะวางลูกกับพื้นแล้วเตะไปข้างหน้าระหว่างเกม บอกเลยว่ายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรอีก
เกณฑ์ที่ใช้วัดผลแพ้ชนะในรักบี้ฟุตบอล คืออะไร
แม้ว่าเป้าหมายสูงสุดของเกมนี้จะเป็นการนำลูกรักบี้ไปยังประตูของฝ่ายตรงข้ามให้ได้ แต่การหาทีมที่ชนะไม่ได้นับแค่จำนวนการทำประตูเหมือนในกีฬาฟุตบอล กลับเป็นการนับคะแนนของทุกกิจกรรมที่เกิดขึ้นระหว่างเกม เพราะในความเป็นจริงการแข่งขันที่ดุเดือดไม่ได้จบที่การทำประตูโดยง่าย กว่าจะทำได้สักประตูก็อาจต้องหยุดทำสกรัมกันหลายครั้ง พูดง่ายๆ ก็คือเป็นไปได้ที่ลูกรักบี้อาจวิ่งไปมาในสนามและไม่เข้าประตูฝั่งไหนเลยจนจบเกม การวัดผลที่ดีกว่าจึงเป็นการนับคะแนนอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
ความแตกต่างระหว่างรักบี้กับอเมริกันฟุตบอล
หลังจากเคลียร์ประเด็นเรื่องรักบี้ฟุตบอล คืออะไร ไปเรียบร้อยแล้ว ก็พลาดไม่ได้ที่จะพูดถึงอีกหนึ่งเรื่องที่มีคนจำนวนไม่น้อยยังสับสนอยู่ นั่นคือรักบี้กับอเมริกันฟุตบอลต่างกันยังไง ในเมื่อเป็นเกมที่ต้องอุ้มลูกไปให้ถึงประตูของอีกฝ่ายหนึ่งเหมือนกัน บอกเลยว่ากีฬา 2 ชนิดนี้ต่างกันค่อนข้างมาก ตั้งแต่เสื้อผ้า อุปกรณ์ที่ต้องใช้ กติกาการแข่งขัน และวิธีการนับคะแนนเพื่อวัดผลแพ้ชนะ อย่างวิธีการส่งลูกก็ต่างกันชัดเจน คือรักบี้ต้องส่งไปด้านข้างหรือด้านหลังเท่านั้น ขณะที่อเมริกันฟุตบอลสามารถโยนส่งไปด้านหน้าได้เลย เรื่องความดุดันอเมริกันฟุตบอลก็อาจเทียบกับรักบี้ไม่ได้ เพราะหลายท่วงท่าที่ใช้ได้ในรักบี้จะใช้ไม่ได้ในอเมริกันฟุตบอล
ประโยชน์ของกีฬารักบี้ที่ไม่ได้มีแค่ความบ้าพลัง
มาถึงตรงนี้คาดว่าทุกคนคงเข้าใจชัดเจนในทุกมิติแล้วว่ารักบี้ฟุตบอล คืออะไร แต่ต้องย้ำทิ้งท้ายกันตรงนี้ว่าเกมรักบี้ไม่ได้มีดีแค่ความโหดและเป็นแหล่งรวมพลคนบ้าพลัง เพราะเกมนี้ต้องใช้ทั้งพลังกาย พลังใจ และการวางกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยม การฝึกฝนและเล่นรักบี้จึงให้ประโยชน์หลากหลายกว่าที่คิด
- ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อในทุกสัดส่วน ไม่บาดเจ็บง่าย หรือต่อให้บาดเจ็บก็ฟื้นตัวได้เร็วกว่าคนทั่วไป
- ช่วยกระตุ้นให้ระบบต่างๆ ภายในร่างกายทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งระบบไหลเวียนโลหิต ระบบหายใจ และระบบประสาท
- ช่วยฝึกการตัดสินใจในระยะเวลาอันสั้น การแก้เกมเฉพาะหน้า และนับว่าเป็นการฝึกสมาธิไปด้วย
- ช่วยเพิ่มทักษะการควบคุมและเคลื่อนไหวร่างกายให้ได้อย่างที่ใจต้องการ ซึ่งจะมีผลต่อการตอบสนองแบบอัตโนมัติของร่างกายด้วย
- ช่วยฝึกการทำงานร่วมกันเป็นทีม ทำให้เข้าใจและรู้วิธีการสื่อสารที่ดี รู้หน้าที่และรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองได้
- ช่วยเสริมความมั่นใจในตัวเอง และฝึกทักษะของผู้นำภายใต้บทบาทหน้าที่ที่แตกต่างกันได้
นอกจากประโยชน์ของกีฬารักบี้ทั้งหมดนี้ ต้องดูด้วยว่าตำแหน่งของผู้เล่นในรักบี้ฟุตบอล คืออะไร ก็จะได้ทักษะเฉพาะที่มาพร้อมกับตำแหน่งนั้นด้วย อย่างเช่นผู้เล่นตำแหน่ง FlyHalf ที่เป็นเหมือนหัวหน้ากองหลังรักบี้ ก็จะได้ทักษะการวางแผน การแก้เกม และจะกลายเป็นคนช่างสังเกตที่ใส่ใจในรายละเอียดมากขึ้นด้วย