หากกล่าวถึงกีฬาประจำชาติญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พร้อมกีฬาคาราเต้ หรือ คาราเต้โด ซึ่งนับว่าเป็นศิลปะการต่อสู้ที่มีทั้งท่วงท่าที่สวยงาม แข็งแรง จนถูกนำมาเป็นกีฬาและจัดการแข่งขันในรายการเล็กใหญ่จนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกคนไปดู กติกาคาราเต้ ว่าปัจจุบันกติกาการแข่งขันของกีฬาชนิดนี้เป็นอย่างไรบ้าง รวมไปถึงประวัติความเป็นมาของกีฬาชนิดนี้อีกด้วย
เปิดประวัติคาราเต้ ศิลปะการต่อสู้มือเปล่าอันโด่งดัง
ก่อนที่จะไปดู กติกาคาราเต้ เราอยากพาทุกคนไปรู้จักกับ ประวัติกีฬาคาราเต้ กันก่อน ซึ่งก็คงต้องย้อนกันไปไกลสักหน่อย โดยกีฬาชนิดนี้นับว่าเป็นศิลปะการต่อสู้ที่คาดว่าจะถือกำเนิดขึ้นที่เมืองโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น ราวปี ค.ศ.1921 โดยเป็นการผสมผสานกันระหว่างศิลปะการต่อสู้ของท้องถิ่นเขากับการต่อสู้ของชาวจีนฮกเกี้ยน
กระทั่งในปี ค.ศ.1922 ฟูนาโกชิ กิชิน ก็ได้มีการพัฒนาคาราเต้และเผยแพร่ศิลปะการต่อสู้นี้สู้ชาวญี่ปุ่น จนใจปี ค.ศ.1948 ก็ได้มีการก่อตั้งโรงฝึกที่มีชื่อว่า โชโตกัน ซึ่งในปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนชื่อมาเป็น Japan Karate Association ตั้งอยู่ที่ เขตบุงเกียว เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
คาราเต้แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
หลายคนคงเคยสงสัยว่า คาราเต้โด มีกี่ประเภท จริง ๆ แล้วการแข่งขันคาราเต้จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ด้วยกันคือ คุมิเต้ การต่อสู้แบบตัวต่อตัว และ คาตะ การแสดงทักษะและเทคนิค โดยแต่ละสำนักก็จะมีคาตะต่างกันไปอยู่ที่ว่าสืบทอดมาจาก โอะกินะวะ-เต้ ชนิดใดนั่นเอง
- คุมิเต้แบ่งการแข่งขันมี 3 รูปแบบ
- แบบสำนัก JKA (Japan Karate Association)
- แบบสากล WKF (World Karate Federation)
- แบบฟูลคอนแทค นิยมแข่งในหมู่สำนักที่มาจากเคียวคุชินคาราเต้ ซึ่งจะเป็นการต่อสู้ที่สามารถโจมตีใบหน้าด้วยการเตะ และเข่าเท่านั้น
- การแข่งขันแบบคาตะ คือการแข่งขันศิลปะหรือท่าทางการต่อสู้ที่โดดเด่นของแต่ละสำนัก
วิธีการเล่น และกติกาคาราเต้
สำหรับ วิธีการเล่นคาราเต้ หรือกติกาของคาราเต้นั้นก็คงต้องบอกว่ามีความซับซ้อนอยู่ไม่น้อย เพราะอย่างที่เราได้กล่าวไปว่า การต่อสู้คาราเต้เป็นศิลปะการต่อสู้ที่เก่าแก่ ดังนั้นจึงจะมีการแข่งขันทั้งรูปแบบสากล และการแข่งขันเฉพาะของแต่ละสำนัก
- การแข่งขันประเภทคาตะ
- แข่งขันประเภททีมสมาชิก 3 คน หญิงล้วนและชายล้วน และประเภทบุคคล
- ผู้แข่งขันต้องใช้ทั้งท่าบังคับและท่าอิสระ และต้องเป็นท่าที่ได้รับการยอมรับจากสหพันธ์คาราเต้แห่งโลก (WKF)
- ใน 2 รอบแรกจะไม่อนุญาตให้ใช้ท่าอื่นที่ไม่ได้รับการอนุญาต และซึ่งจะมีระบุไว้อย่างชัดเจนก่อนเริ่มแข่งขัน
- ในแต่ละรอบของการแข่งผู้แข่งจะไม่สามารถแสดงคาตะ (ท่าทาง) ซ้ำได้
- การแข่งขันประเภทคุมิเต้
- กติกาการแข่งขันแบบสากล แบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายคือ แดง และน้ำเงิน
- ในการแข่งขันจะมีกรรมการทั้งหมด 4 คน (อยู่ในการควบคุมของกรรมการชุดใหญ่อีกที) แบ่งเป็นกรรมการธง 3 คนอยู่รอบขอบสนาม กรรมการชี้ขาดในสนาม 1 คน (คล้ายมวย) และกรรมการจดบันทึกหน้าโต๊ะกรรมการอีก 1 คน
- การแข่งขันประเภทชายจะใช้เวลาในการแข่ง 3 นาที และประเภทหญิง, เด็ก หรือผู้ฝึกใหม่ จะใช้เวลาแข่งขัน 2 นาที
การนับคะแนนคาราเต้
อย่างที่เราได้กล่าวไปในข้างต้นว่า คาราเต้แบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 ประเภท คือ คุมิเต้และคาตะ และการแข่ง คาราเต้ นับคะแนนยังไง ในเมื่อการแข่งทั้ง 2 แบบมีรูปแบบการแข่งที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่จริง ๆ แล้ววิธีการให้คะแนนแบ่งออกเป็นดังนี้
- การนับคะแนนคุมิเต้
- การแข่งคุมิเต้จะให้คะแนนแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ IPPON 3 คะแนน, WAZARI 2 คะแนน และ YUKO 1 คะแนน
- IPPON จะได้จากการเตะเข้าไปที่ช่วงบน, ใบหน้า, หัว หรือการเข้าไปซ้ำคู้ต่อสู้ที่ล้มลง
- WAZARI จะได้จากการเตะเข้าที่บริเวณลำตัว
- YUKO จะได้จากการชกไปที่บริเวณลำตัวและส่วนหัว
- หากทำ 8 แต้มได้ก่อน หรือได้คะแนนสูงกว่าอีกฝ่ายหลังจากหมดเวลาก็จะเป็นผู้ที่ชนะ
- การนับคะแนนคาตะ
- เกณฑ์การให้คะแนนมี 5 เกณฑ์
- ความถูกต้องของท่ายืน
- ความเข้าใจในเทคนิคที่นำมาใช้
- การกำหนดลมหายใจระหว่างการออกท่วงท่า
- ความยากง่ายของท่า
- จังหวะ ความแข็งแกร่ง ความสมดุล และพละกำลังของผู้แข่งขัน
การแบ่งระดับของคาราเต้
ก่อนที่จะจากกันไปในวันนี้ เราอยากพาทุกคนไปดูกันว่า คาราเต้มีสายไหนบ้าง โดยการแบ่งสายของคาราเต้จะจะมีความแตกต่างกันไปของแต่ละสำนัก และสมาคม โดยในไทยจะมี 2 สมาคมหลัก ๆ ด้วยกัน คือสมาคมไทย-ญี่ปุ่น โชโตกันคาราเต้ (ประเทศไทย) และ สมาคมคาราเต้โดโกจูไก (ประเทศไทย) และแบ่งสายออกเป็น 2 ระดับคือ คิว (Kyu) ใช้เรียกสายในระดับสี และ ดั้ง (Dan) ใช้เรียกระดับสายดำที่จะมีตั้งแต่ 1 – 10
- สมาคมไทย-ญี่ปุ่น โชโตกันคาราเต้ (ประเทศไทย)
- 10kyu สายขาว (ระดับเริ่มต้น)
- 9 kyu สายขาว
- 8kyu สายขาว
- 7 kyu สายเหลือง
- 6 kyu สายเหลือง
- 5kyu สายเขียว
- 4kyu สายฟ้า
- 3kyu สายน้ำตาล
- 2kyu สายน้ำตาล
- 1kyu สายน้ำตาล
- 1-10Dan สายดำ (10 Dan ระดับสูงสุด)
- สมาคมคาราเต้โดโกจูไก (ประเทศไทย)
- 10kyu สายขายปลายเหลือง (ระดับเริ่มต้น)
- 9kyu สายเหลือง
- 8kyu สายเหลืองปลายเขียว
- 7kyu สายเขียว
- 6kyu สายเขียวปลายฟ้า
- 5kyu สายฟ้า
- 4kyu สายฟ้าปลายน้ำตาล
- 3kyu สายน้ำตาล
- 2kyu สายน้ำตาลปลายดำ1
- 1kyu สายน้ำตาลปลายดำ2
- 1-10Dan สายดำ (10 Dan ระดับสูงสุด)